ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง เผชิญโควิด-19 ระบาดระลอก 3
สหประชาชาติลงมตินำกัญชาออกจากรายชื่อ “สารเสพติดที่อันตรายสุด”
บรรยากาศในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเหมือนกับปีก่อนๆ คือ เงียบเชียบ ไม่ใช่เงียบเสียง แต่เป็นบรรยากาศของผู้คนที่เบาบางลง เพราะวันนี้คือวันสอบซูนึง การสอบเพื่อนำคะแนนยื่นเข้ามหาวิทยาลัยในเกาหลีใต้ เป็นวันสอบที่นักเรียนมัธยมและชาวเกาหลีใต้ที่สอบมหาวิทยาลัยที่ตนต้องการไม่ติดในปีก่อนๆ รอคอย หลายคนเตรียมการอ่านหนังสือ เรียนพิเศษมาหลายปีก็เพื่อวันนี้
ปกติแล้วในวันนี้ บริษัทห้างร้านต่างๆ จะเปิดช้าขึ้น 1 ชั่วโมง เพื่อให้ถนนโล่งขึ้น การสัญจรสะดวก บรรดาผู้เข้าสอบจะได้ไปถึงสนามสอบทันเวลา มากกว่านั้นยังมีรถตำรวจคอยรับส่งนักเรียนฟรี เหล่านี้คือภาพที่ปรากฏทุกปี แต่ปีนี้พิเศษมากกว่านั้น เพราะโควิด-19 กำลังระบาด
มาตรการป้องกันโรคระบาดถูกนำมาใช้ ที่ด้านนอกผู้เข้าสอบทุกคนต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ส่วนในห้องสอบ ผู้เข้าสอบต้องสวมหน้ากากอนามัยไว้ตลอดเวลา ข้าวของและอุปกรณ์เครื่องเขียนที่แจกให้ถูกทำความสะอาดฆ่าเชื้อ และบนโต๊ะก็มีฉากกั้นพลาสติก
ปีนี้มีผู้เข้าสอบทั้งหมดราว 500,000 คน ในจำนวนนี้มี 3,775 คนที่ต้องทำข้อสอบจากสถานที่กักตัว เนื่องจากพวกเขาใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ หรือไปในสถานที่เสี่ยงมา และมีอีก 35 คนที่ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อต้องทำข้อสอบจากภายในห้องกักกันโรคของโรงพยาบาล ที่ต้องคุมเข้มขนาดนี้ก็เพราะการสอบซูนึงในปีนี้ เกิดขึ้นในช่วงที่เกาหลีใต้กำลังเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ระลอกสาม
เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เกาหลีใต้พบผู้ป่วยราบใหม่ในวันเดียวมากถึง 583 คน นับเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา และในช่วงเวลาสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ทุกวันเกาหลีใต้มีผู้ป่วยใหม่รายวันเป็นเลขสามหลักมาโดยตลอด ล่าสุดเมื่อวานนี้พบเพิ่มอีก 540 คน รัฐบาลจึงพยายามคุมเข้มการสอบครั้งนี้ เพราะไม่ต้องการให้การสอบซูนึงกลายเป็นอีเว้นที่สร้าง Super Spreader
มาตรการที่เข้มงวดยังครอบคลุมไปถึงผู้ปกครอง ปกติแล้วทุกปี ผู้ปกครองจำนวนมากจะมารวมตัวกันที่สนามสอบ คอยให้กำลังใจลูกหลาน หรือสวดภาวนาขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งในปีนี้ทางการไม่อนุญาต ทำไมคนเกาหลีใต้จึงจริงจังกับการสอบซูนึง ถึงขนาดที่เรียกกันว่าเป็นอีเว้นระดับชาติ? เพราะมากกว่าการเคลียร์ถนนหนทาง แม้แต่เที่ยวบินยังถูกปรับลดให้น้อยลง เพื่อไม่ให้กวนสมาธิผู้เข้าสอบ นั่นก็เพราะ คะแนนสอบซูนึงคือใบเบิกทางไปสู่มหาวิทยาลัยที่ดี ซึ่งเป้าหมายที่หลายคนคาดหวังไว้ เช่น มหาวิทยาลัยโซล มหาวิทยาลัยเกาหลี หรือ มหาวิทยาลัยยอนเซ
การเข้ามหาวิทยาลัยเหล่านี้คือหลักประกันว่าในอนาคตพวกเขาจะได้งานที่ดี งานที่มั่นคงในบริษัทใหญ่ และเงินเดือนที่มากตามมา การแข่งขันในเกาหลีใต้สูงมาก และหลายปีที่ผ่านมาอัตราการว่างงานในคนหนุ่มสาวสูงขึ้นเรื่อยๆ นั่นหมายความว่า หากไม่ได้เข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำ ก็ยากที่จะหางานทำได้
ในการสอบซูนึงที่มีผู้สมัครถึงครึ่งล้านในแต่ละปี มีเพียงร้อยละ 2 เท่านั้นที่สามารถเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำได้ แรงกดดันจากสังคม ประกอบกับกระบวนการสอบที่เกิดขึ้นเพียงวันเดียวต่อปี ส่งผลให้ ทุกๆ ปี มีเด็กจำนวนหนึ่งฆ่าตัวตายจากความเครียดและความผิดหวัง ตลอดจนนำไปสู่โรคซึมเศร้าในวัยรุ่น อย่างไรก็ตามแม้จะมีโควิด แต่สำหรับหลายคนโรคระบาดคือเรื่องรอง เพราะการสอบได้คะแนนน้อยน่ากลัวกว่าติดเชื้อไวรัส