กระสุนของกองทัพ กับการลุกฮือของชาวเมียนมา
ม็อบเมียนมา ปะทะแก๊สน้ำตา-ระเบิดมือ ประท้วงรัฐบาลทหาร
โดยที่เมาะลำเลิง เมืองหลักของรัฐมอญ นักศึกษาจำนวนมากได้ออกมาเดินขบวนต่อต้านการปกครองแบบเผด็จการโดยกองทัพ แม้ว่ากองกำลังรัฐบาลทหารจะตรึงกำลังอยู่ในหลายพื้นที่ เขตสะกาย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ประชาชนร่วมกันเดินขบวนประท้วงต่อต้านกองทัพราว 2 หมื่นคน ซึ่งในจำนวนนี้มีพระสงฆ์รวมอยู่ด้วย
ส่วนที่นครย่างกุ้ง สำนักข่าวเมียนมา นาว รายงานว่ามีชายถูกยิงที่ศีรษะเสียชีวิตระหว่างการประท้วงในย่านธาเกตาเมื่อเช้านี้ โดยทหารเมียนมาที่ซุ่มรอผู้ประท้วงอยู่ นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน
ขณะเดียวกันมีคลิปที่เผยแพร่บนสังคมออนไลน์ที่แสดงให้เห็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ที่ทหารเมียนมากำลังทำลายกล้องวงจรปิดในย่านซานชองของนครย่างกุ้ง โดยสื่อท้องถิ่นระบุว่า รัฐบาลทหารเมียนมากำลังพุ่งเป้าจัดการกับกล้องวงจรปิดและกล้องโทรศัพท์ของประชาชน หลังจากบล็อกอินเทอร์เน็ตมือถือและอินเตอร์เน็ตไร้สายไปแล้ว
ส่วนความเคลื่อนไหวจากนานาชาติสำนักงานองค์การสหประชาชาติในเมียนมาลดธงครึ่งเสาร์วันนี้ (29 มี.ค.) เพื่อไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิต หลังกองทัพเมียนสังหารผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหารมากกว่าร้อยคนในวันเดียว เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะที่เมื่อวานนี้ (28 มี.ค.) ที่ปรึกษาพิเศษของสหประชาชาติด้านการป้องกันการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกัน โดยเตือนถึงความเสียงของการก่ออาชญากรรมที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงที่เพิ่มสูงขึ้นในเมียนมา พร้อมประณามการโจมตีและสังหารผู้ประท้วงอย่างเป็นระบบและกว้างขวางของกองทัพเมียนมา
เช่นเดียวกับ นายโจเซป บอร์เรล ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศแห่งสหภาพยุโรป ที่ระบุว่าการใช้ความรุนแรงมากขึ้นของกองทัพเมียนมาจนทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตมากกว่า 100 คน เป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ และกองทัพเมียนมาได้ทำให้วันกองทัพเป็นวันแห่งความหวาดกลัวและน่าอับอาย นอกจากนี้ นายบอร์เรลยังเรียกร้องให้ผู้นำทหารเมียนมาถอยจากเส้นทางที่ไร้เหตุผลนี้ โศกนาฏกรรมนี้ต้องหยุดได้แล้ว
สถานการณ์การชุมนุมประท้วงในเมียนมาทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อวันเสาร์ (27 มี.ค.) ซึ่งเป็นวันกองทัพเมียนมา มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงใช้กำลังเข้าปราบปรามและสลายกลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 114 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เหตุรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. และในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วยไม่ต่ำกว่า 7 คน