โควิด-19 อินเดีย คร่าชีวิตบุคลากรการแพทย์ทะลุ 1,000 คน
สหรัฐฯ ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้เด็ก 12-15 ปีแล้ว 600,000 คน
เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา กรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา ได้เริ่มการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ประชาชนที่มาอายุ 18 ปีขึ้นไป จะเห็นว่าประชาชนที่อาศัยอยู่ในพนมเปญจำนวนมากออกมาต่อคิวรอรับการฉีดวัคซีน
กัมพูชาเริ่มโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ประชาชนตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่นี่อนุมัติใช้วัคซีนของผู้ผลิตสามราย ได้แก่ ซิโนฟาร์ม ซิโนแวค และแอสตราเซเนกา ซึ่งวัคซีนแอสตราเซเนกา กัมพูชาได้รับจากโครงการ โคแวกซ์ (COVAX) โครงการแจกจ่ายวัคซีนให้ประเทศรายได้ต่ำขององค์การอนามัยโลก
ประชาชนกลุ่มแรกที่ได้รับการฉีดวัคซีนก็คือ ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสูงที่สุด อย่าง บุคลากรทางการแพทย์ ผู้สูงอายุ ข้าราชการ คุณครู ทหาร นักข่าว และพนักงานเก็บขยะ
ล่าสุดกัมพูชาฉีดวัคซีนโดสแรกให้ประชาชนแล้ว 2.1 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 13 ของประชากรราว 16 ล้านคน และมีประชาชนราว 1.2 ล้านคน หรือร้อยละ 7.5 ของประชากรที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว โดยเบื้องต้นกัมพูชาตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ประชาชน 10 ล้านคน และคาดว่าภายในกลางปี กัมพูชาจะสามารถฉีดวัคซีนให้ร้อยละ 95 ของประชาชนทั้งประเทศ
ปี 2021 กัมพูชากลับมาเจอวิกฤตโควิด-19 ที่รุนแรงกว่าปีที่ 2020 หลายเท่าตัว จากกราฟจะเห็นว่าตั้งแต่ต้นปี 2020 กัมพูชาพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต่ำมาก บางวันพบผู้ป่วยใหม่ไม่ถึง 10 ราย สูงสุดไม่เกิน 35 ราย และบางวันไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เลย แต่เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กัมพูชาก็กลับมาพบผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากเกิดคลัสเตอร์การระบาดในกลุ่มชาวจีน 4 ราย
โดยหลายฝ่ายเชื่อว่าชาวจีนกลุ่มนี้แพร่เชื้อไปยังประชาชนกลุ่มอื่น ๆ ในกัมพูชา เนื่องจากพวกเขาติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อหลีกเลี่ยงการกักตัวที่โรงแรม ก่อนจะหลบหนีออกมาจากที่กักตัว ซึ่งคลัสเตอร์ดังกล่าวยังนำมาสู่การแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันธุ์จากสหราชอาณาจักร (B.1.1.7) อีกด้วย
เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา กัมพูชาเคยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงที่สุดถึง 938 ราย ก่อนจะค่อย ๆ ลดลงมาเหลือ 345 รายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้อในกัมพูชาค่อย ๆ ลดลง เนื่องจากเมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา กัมพูชาได้ประกาศล็อกดาวน์พื้นที่เสี่ยงสูง อย่าง กรุงพนมเปญและเมืองตาเขมา นานเกือบสามสัปดาห์ แต่หลังจากนั้นยังมีมาตรการเคอร์ฟิวตั้งแต่ 2 ทุ่ม ถึงตี 3 เพื่อจำกัดการเดินทางของประชาชนและควบคุมการระบาดของไวรัส โดยตอนนี้กัมพูชามียอดผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 23,000 ราย เสียชีวิตแล้ว 159 ราย
อีกประเทศอาเซียนที่มีความคืบหน้าเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 ก็คือฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา ทางการฟิลิปปินส์เปิดเผยเกี่ยวกับความคืบหน้าการสั่งจองวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์จำนวน 40 ล้านโดส ที่ทำให้ฟิลิปปินส์กลายเป็นประเทศที่สั่งจองวัคซีนของไฟเซอร์มากที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยตอนนี้ฟิลิปปินส์ได้อนุมัติใช้วัคซีนของผู้ผลิต 4 ราย ได้แก่ แอสตราเซเนกา ไฟเซอร์ ซิโนแวค และสปุตนิก วี
ฟิลิปปินส์มีประชากรราว 108 ล้านคน ล่าสุดฟิลิปปินส์แจกจ่ายวัคซีนให้ประชาชนแล้ว 2.9 ล้านโดส โดยมีพลเมืองราว 1.5 ล้านราย ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อยหนึ่งโดส และมีราว 676,000 รายที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้ว
สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์กลับมาพบผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง สาเหตุสำคัญก็คือการแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันธุ์ชนิดใหม่ ซึ่งตอนนี้ฟิลิปปินส์พบไวรัสกลายพันธุ์อย่างน้อย 5 สายพันธุ์ ได้แก่
1.สายพันธุ์สหราชอาณาจักร (B.1.1.7)
2.สายพันธุ์แอฟริกาใต้ (B.1.351)
3.สายพันธุ์บราซิล (P.1)
4.สายพันธุ์ที่พบในฟิลิปปินส์เอง (P.3)
5.สายพันธุ์อินเดีย (B.1.617)
ยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ฟิลิปปินส์ประสบปัญหาด้านสาธารณสุข โรงพยาบาลมีศักยภาพไม่เพียงพอในการรับรองผู้ติดเชื้อรายใหม่ อีกทั้งยังขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ และยังมีเจ้าหน้าสาธารณสุขหลายรายติดเชื้อโควิด-19 ด้วย
ทำให้ตอนนี้ฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 1 ล้าน 1 แสนราย เสียชีวิตแล้วกว่า 19,000 ราย เป็นประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับสองในอาเซียน รองจากอินโดนีเซีย