เมื่อวันศุกร์ (11 ก.พ.) ที่ผ่านมา องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ประกาศอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉิน ยาโมโนโคลนอลแอนดิบอดีตัวใหม่ที่มุ่งเป้ารักษาโควิด-19 โอมิครอนโดยเฉพาะ เป็นอีกหนึ่งอาวุธของสหรัฐฯ ในการรับมือการระบาดของโควิด-19 ระลอกล่าสุด
FDA ระบุว่า ได้อนุมัติให้สามารถใช้ยา “เบบเทโลวิแมบ (Bebtelovimab)” ของแบรนด์อีไล ลิลลี่ (Eli Lilly) สำหรับผู้ใหญ่และวัยรุ่นที่ติดเชื้อโควิด-19 ในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง
สหรัฐฯ อนุมัติฉีดวัคซีนโควิดไฟเซอร์เข็มกระตุ้นให้เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป
อย.สหรัฐฯ อนุมัติใช้ “โมลนูพิราเวียร์” ยาเม็ดต้านโควิด-19 ตัวที่สอง
สหรัฐฯ อนุมัติใช้แล้ว “แพกซ์โลวิด” ยาเม็ดต้านโควิด-19
บริษัทลิลลี่ประกาศเมื่อปลายปีที่แล้วว่า สูตรยาโมโนโคลนอลแอนติบอดีตัวก่อนใช้ไม่ได้ผลกับโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน จึงได้พัฒนาสูตรยาโมโนโคลนอลแอนติบอดีตัวใหม่ขึ้นมา โดยมีจุดประสงค์เพื่อรับมือกับโอมิครอนโดยเฉพาะ
โดยฝ่ายบริหารของไบเดนได้สั่งซื้อยาเบบเทโลวิแมบ 600,000 คอร์สตั้งแต่ก่อนยาตัวนี้จะได้รับอนุญาตให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน ในราคา 720 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.3 หมื่นล้านบาท) และจะเริ่มจัดส่งยาไปยังหน่วยงานด้านสุขภาพของรัฐต่าง ๆ เพื่อแจกจ่ายตามสถานพยาบาล
ดร.แพทริเซีย คาวาซโซนี ผู้อำนวยการฝ่ายยาของ FDA กล่าวว่า “นี่เป็นขั้นตอนสำคัญในการตอบสนองความต้องการตัวเลือกเพิ่มเติมในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 เนื่องจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่ยังคงเกิดขึ้น”
การตัดสินใจนี้ของ FDA เกิดขึ้นหลังจากพบว่า การรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยโมโนโคลนอลแอนติบอดีเดิม 2 ตัวที่ได้รับอนุญาตให้ใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในกรณีฉุกเฉินในสหรัฐฯ ไม่มีประสิทธิภาพในการต่อต้านสายพันธุ์โอมิครอน
โดยเมื่อปลายเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา FDA เพิกถอนการอนุญาตใช้ยาโมโนโคลนอลแอนติบอดี 2 ตัวดังกล่าว ตัวหนึ่งเป็นของรีเจเนอรอน ซึ่งเป็นหนึ่งในยาที่ใช้รักษาอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อครั้งที่เขาติดโควิด-19 อีกตัวหนึ่งเป็นยาโมโนโคลนอลแอนติบอดีของลิลลี่เอง
เดิมยาทั้งสองตัวเป็นแกนหลักในการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในระยะแรกเริ่ม ซึ่งเป็นระยะที่โมโนโคลนอลแอนติบอดีให้ผลดีที่สุด แต่เมื่อพบว่าใช้ไม่ได้ผลกับโอมิครอน ก็ทำให้แพทย์ต้องมองหาตัวเลือกอื่นแทน
ข้อมูลจาก FDA ยังระบุว่า ยาเบบเทโลวิแมบของลิลลี่ตัวนี้ยังสามารถต่อต้านโควิด-19 โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 ได้อีกด้วย
ภายใต้สัญญาซื้อขายของสหรัฐฯ กับลิลลี่ รัฐบาลสหรัฐฯ จะได้รับยาโมโนโคลนอลแอนติบอดีตัวใหม่ประมาณ 300,000 คอร์สก่อนสิ้นเดือน ก.พ. นี้ และจะได้อีก 300,000 คอร์สภายในเดือน มี.ค.
เรียบเรียงจาก AP
ภาพจาก AP