เสียงเตือนภัยการโจมตีทางอากาศดังขึ้นอีกครั้งในกรุงเคียฟ เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ขณะที่เมืองหลวงยูเครนเตรียมรับมือการโจมตีรอบใหม่ของรัสเซีย โดยล่าสุด มีรายงานว่า คลังน้ำมันในเมืองวาซิลคีฟ (Vasylkiv) ใกล้กรุงเคียฟถูกจรวดของรัสเซียโจมตี
นายอิกอร์ โคนาเชนคอฟ (Igor Konashenkov) โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุเมื่อวานนี้ (26 ก.พ.) ว่า รัสเซียจะกลับมาโจมตีทุกทิศทางอีกครั้งตามแผนปฏิบัติการทางทหาร หลังทางการยูเครนปฏิเสธที่จะเจรจากับรัฐบาลมอสโก
นาโต สั่งระดมพล สนับสนุนชาติพันธมิตร และตอบโต้การรุกรานของรัสเซีย
หลายชาติแจ้งพลเรือนเร่งอพยพจากยูเครน
อย่างไรก็ตาม ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน มีคาอิโล โปโดลยัก (Mykhailo Podolyak) ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของรัสเซีย โดยระบุว่า ยูเครนพร้อมที่จะเจรจา แต่จะไม่ยอมรับคำขาดหรือเงื่อนไขที่ยอมรับไม่ได้จากทางรัสเซีย
ด้าน นายวิตาลี คลิตช์โก (Vitali Klitschko) นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ ของยูเครน ประกาศขยายระยะเวลาการบังคับใช้คำสั่งเคอร์ฟิว ระหว่างเวลา 17.00 นาฬิกา จนถึง 8.000 นาฬิกาของอีกวัน โดยให้มีผลตั้งแต่ช่วงค่ำของวันเสาร์จนถึงช่วงเช้าของวันจันทร์ ตามเวลาท้องถิ่น จากเดิมที่เคอร์ฟิว ระหว่างเวลา 22 นาฬิกา – 07.00 นาฬิกา พร้อมระบุว่าบุคคลใดก็ตามที่พบอยู่นอกเคหสถานจะถือว่าเป็นสมาชิกกลุ่มก่อวินาศกรรมของรัสเซีย
กรุงเคียฟ ขยายระยะเวลาเคอร์ฟิวเมืองหลวง หลังรัสเซียถล่มหนัก
สำหรับสถานการณ์เมื่อวานนี้ แม้จะมีการสู้รบอย่างดุเดือด แต่ทหารรัสเซียก็ยังไม่สามารถบุกยึดกรุงเคียฟได้ โดยประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน แถลงว่ากองทัพยูเครนประสบความสำเร็จในการล้มแผนโจมตีและบุกยึดกรุงเคียฟของกองทัพศัตรู และย้ำว่าพื้นที่กรุงเคียฟ และเมืองสำคัญโดยรอบ ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล
เมื่อวานนี้ บรรยากาศในกรุงเคียฟมีเสียงระเบิด และเสียงปืนยังดังขึ้นเป็นระยะ กองกำลังรัสเซียเข้าควบคุมสนามบินฮอสโทเมล ทางตะวันตกของกรุงเคียฟ เอาไว้ได้อีกครั้ง และเข้าโจมตีฐานทัพแห่งหนึ่งใกล้กับกรุงเคียฟ แต่กองทัพยูเครนกล่าวว่ากำลังพลสามารถต้านทานเอาไว้ได้
นอกจากนี้ อะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในกรุงเคียฟ ยังถูกโจมตีด้วยจรวดขีปนาวุธของรัสเซีย สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับตัวอาคาร ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คนและบาดเจ็บอาการสาหัส 6 คน
ท่ามกลางสถานการณ์สู้รบและการรุกคืบของกองกำลังรัสเซีย ท้องถนนในกรุงเคียฟแทบจะว่างเปล่า มีเพียงทหารยูเครนที่ออกมาลาดตระเวน ขณะที่ประชาชนต่างลงซ่อนตัวหลบภัยใต้ดิน
นายวิตาลี คลิตช์โก (Vitali Klitschko) นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟระบุว่า ในตอนนี้ ทหารรัสเซียที่เข้ามาถึงกรุงเคียฟยังมีไม่มาก แต่มีกลุ่มก่อวินาศกรรมของรัสเซียที่เคลื่อนไหวอยู่ ขณะที่ระบบรถไฟใต้ดินเป็นที่หลบภัยเพียงที่เดียวสำหรับประชาชน และรถไฟทั้งหมดได้หยุดวิ่งให้บริการแล้ว
ส่วนความเคลื่อนไหวในพื้นที่อื่นๆ ของยูเครน ที่เมืองคาร์คีฟ (Kharkiv) ทางตะวันออก ที่เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน ทางการระบุว่า ทหารยูเครนได้ตอบโต้การโจมตีของรัสเซีย พร้อมกับประกาศเตือนภัย และขอให้ประชาชนงดเดินทางไปมาในเมือง
ประชาชนในเมืองคาร์คีฟได้อาศัยชานชาลาสถานีรถไฟใต้ดินและขบวนรถไฟใต้ดินเป็นที่หลบภัย โดยแต่ละคนต่างนำสิ่งของที่จำเป็นติดตัวมามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ขณะที่ประชาชนบางส่วนเดินทางไปบริจาคเลือดที่ศูนย์บริจาค ท่ามกลางเสียงระเบิดและเสียงปืนที่ดังขึ้นเป็นระยะ
ขณะเดียวกัน ภาพถ่ายดาวเทียมของบริษัทแม็กซาร์เทคโนโลยีเมื่อวานนี้ เผยให้เห็นกองกำลังภาคพื้นดินของรัสเซียประจำอยู่ใกล้โรงไฟฟ้าพลังน้ำคาเคฟกา (Kakhovka) ในเมืองโนวาคาเคฟกา (Nova Kakhovka) ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำดนีเปอร์ (Dnieper River) ทางตอนใต้ของยูเครน
นอกจากนี้ ยังมีรายงานการปะทะใกล้เมืองโอเดสซา ทางตอนใต้ ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ระบุว่า หลายเมืองในภาคตะวันตกและภาคกลาง รวมถึงเมืองลวีฟ ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีด้วยขีปนาวุธเช่นกัน
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขยูเครนรายงานว่า นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา มีชาวยูเครนเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 198 คน ในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย 3 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 1,000 คน อย่างไรก็ตาม ทางการยูเครนไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ตัวเลขดังกล่าวนับเฉพาะพลเรือน หรือรวมเจ้าหน้าที่ทหารด้วย
