ยูเครน-รัสเซียเห็นชอบเปิดเส้นทางมนุษยธรรม
IAEA วิตกรัสเซียโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน แถลงเรียกร้องให้ ลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีวรัสเซีย ร่วมนั่งโต๊ะเจรจาในการหารือแบบตัวต่อตัวเพื่อยุติสงคราม แต่ขอว่าในฐานะที่ยูเครนเป็นเพื่อนบ้านกับรัสเซีย ดังนั้นจึงไม่ขอนั่งห่างโต๊ะยาวห่างถึง 30 เมตร เหมือนตอนที่ประธานาธิบดีปูตินพบหารือกับผู้นำฝรั่งเศสและเยอรมนีก่อนหน้านี้
“มันไม่เกี่ยวกับว่าผมต้องการคุยกับปูติน ผมคิดว่าผมจำต้องคุยกับปูติน โลกต้องคุยกับปูติน เพราะไม่มีทางอื่นที่จะหยุดสงครามนี้ได้ นั่นเป็นเหตุผลที่ผมต้องทำ” เซเลนสกี กล่าว
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีเซเลนสกี ยังเรียกร้องชาติตะวันตก ให้เพิ่มความช่วยเหลือทางทหารให้กับรัฐบาลเคียฟ รวมถึง ต้องการให้กำหนดเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้ายูเครน และระบุด้วยว่า หากตะวันตกยังลังเลจะประกาศเขตห้ามบินเพื่อสกัดรัสเซียอย่างน้อยก็ควรจัดหาเครื่องบินรบให้กองทัพยูเครน
นอกจากนี้ ประธานาธิบดียูเครน ยังเตือนด้วยว่า รัสเซียจะไม่หยุดอยู่แค่การรุกรานยูเครน และหากยูเครนถูกยึดได้ ลัตเวีย ลิทัวเนียและเอสโตเนีย ซึ่งทั้ง 3 ประเทศนี้เป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO) จะเป็นเป้าหมายต่อไป
ยูเครนคุมเพลิงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้แล้ว ไม่มีผู้เสียชีวิต
"ปูติน" ยันการบุกยูเครนเป็นไปตามแผน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของผู้นำยูเครน มีขึ้นเพียงไม่นานหลังจากประธานาธิบดีปูติน แถลงว่า ปฏิบัติการทางทหารของกองทัพรัสเซียเป็นไปตามแผน แม้การสู้รบจะลุล่วงเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 และเพิ่งยึดเมืองเคอร์ซัน ได้เพียงเมืองเดียว
“ถึงมิตรสหาย ผมต้องการบอกว่า ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร กำลังดำเนินไปอย่างถูกต้องตามแผนการที่วางไว้ เป็นไปตามแผน ภารกิจทั้งหมดที่สั่งการประสบความสำเร็จด้วยดี” ปูติน กล่าว
ขณะเดียวกัน ปูตินยังได้กล่าวหากองทัพยูเครนว่า ทางยูเครนได้ทรมานและสังหารนักโทษสงครามชาวรัสเซีย และจับพลเมืองต่างชาติเอาไว้เป็นตัวประกัน และใช้พวกเขาเหล่านั้นเป็นโล่มนุษย์ แต่ไม่มีหลักฐานยืนยัน และยังย้ำถึงความจำเป็นและเหตุผลในการทำสงครามครั้งนี้
หลายฝ่ายประเมินว่า แถลงการณ์ทางของปูติน มีขึ้นเพื่อลบล้างข้อครหาของชาติตะวันตก และหน่วยข่าวกรอง ที่ระบุว่า การรุกรานของรัสเซียหยุดชะงัก เนื่องจากเผชิญปัญหาด้านการส่งกำลังบำรุง ความผิดพลาดทางยุทธวิธี รวมถึง แรงต่อต้านจากชาวยูเครน