ระดับกัมมันตรังสีในบางพื้นที่ของเชอร์โนบิลสูงขึ้น หลังรัสเซียถอนกำลัง

โดย PPTV Online

เผยแพร่

ทหารยูเครนสำรวจโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล หลังรัสเซียถอนกำลัง พบระดับรังสีในพื้นที่ที่ทหารรัสเซียใช้พักอาศัยสูงกว่ามาตรฐาน

นอกจากกองทัพรัสเซียจะถอนกำลังไปจากพื้นที่รอบ ๆ กรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนแล้ว ยังได้ถอนกำลังจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ที่ยึดไว้ได้ตั้งแต่วันแรกของการบุกยูเครน ล่าสุดทางการยูเครนได้ส่งทหารเข้าไปสำรวจว่า เกิดความเปลี่ยนแปลงไรกับเชอร์โนบิลบ้างหรือไม่

ทหารยูเครนที่เข้าไปสำรวจเล่าว่า เมื่อเข้าไปในห้องควบคุม มีเสียงเตือนเสียดหูของเครื่องวัดรังสีดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน ซึ่งที่ห้องควบคุมนี้เป็นที่ ๆ ทหารรัสเซียใช้พักอาศัยระหว่างที่ควบคุมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล

กองทัพรัสเซียขุดหลุมในพื้นที่ต้องห้ามของเชอร์โนบิล ยังไม่ทราบจุดปะสงค์

กองทัพรัสเซียถอนกำลังออกจากโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล กลับเบลารุส

พบทหารรัสเซียเข้าไปในเขตต้องห้ามของ “เชอร์โนบิล” โดยไม่ป้องกัน

สัญญาณดังกล่าวเตือนว่า ขณะนี้ในห้องควบคุมมีระดับการแผ่ของรังสีสูงกว่าปกติ ซึ่งยังไม่พบแหล่งที่มาของสารกัมมันตภาพรังสีในห้องควบคุมที่ชัดเจน แต่เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวว่า มันอาจมาจากอนุภาคขนาดเล็กและฝุ่นละอองที่ทหารรัสเซียนำเข้ามาจาก “ป่าแดง” พื้นที่ต้องห้ามของเชอร์โนบิลที่ก่อนหน้านี้สื่อรายงานมาตลอดว่า ทหารรัสเซียเข้าไปทำอะไรบางอย่างที่นั่น

อิฮอร์ อูกอลคอฟ หนึ่งในทหารยูเครนที่เข้าไปสำรวจเชอร์โนบิล บอกว่า “พวกเขาไปที่ป่าแดงและนำวัสดุกัมมันตภาพรังสีติดกลับมากับรองเท้า ... ที่อื่นไม่พบระดับรังสีสูงกว่าปกติ มีแต่รังสีเพิ่มขึ้นที่ห้องควบคุมนี่ เพราะพวกเขาอาศัยอยู่ที่นี่”

เจ้าหน้าที่ของโรงไฟฟ้าอธิบายว่า ระดับกัมมันตรังสีภายในห้องที่ทหารรัสเซียใช้พักอาศัยนั้น อยู่สูงกว่าระดับที่สมาคมนิวเคลียร์โลกอธิบายว่าเป็นรังสีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเพียงเล็กน้อย ซึ่งในระดับนี้การสัมผัสเพียงครั้งเดียวจะไม่เป็นอันตราย แต่การสัมผัสอย่างต่อเนื่องอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

“พวกเขาไปทุกที่ และเอาฝุ่นกัมมันตรังสีติดมากับพวกเขาด้วย” อูกอลคอฟกล่าวเสริม

เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวว่า นี่เป็นพฤติกรรมที่หละหลวมและประมาทของทหารรัสเซีย เพราะพื้นที่ป่าแดงยังคงเป็นพื้นที่ที่มีกัมมันตรังสีปนเปื้อนมากที่สุดในโลก โดยอนุภาคกัมมันตรังสีหรือฝุ่นกัมมันตรังสีส่วนใหญ่สะสมอยู่บนผิวดิน

เจ้าหน้าที่ยูเครนได้เปิดเผยภาพจากโดรน ซึ่งแสดงให้เห็นหลุมที่ทหารรัสเซียขุดขึ้นในพื้นที่ป่าแดง และเมื่อสำรวจกล่องเสบียงของทางทหารของรัสเซียที่ถูกทิ้งไว้ในป่าแดงก็พบว่า มีระดับการแผ่รังสีสูงกว่าค่าที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติถึง 50 เท่า

เยอรมัน กาลัชเชนโก รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานยูเครน กล่าวว่า “มันบ้ามาก ๆ ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมพวกเขาถึงทำอย่างนั้นไปที่ป่าแดง ... แต่เราเห็นได้ว่า พวกเขาเข้าไปที่นั่น ทหารรัสเซียไปที่นั่น แล้วกลับมาที่นี่ และระดับของรังสีเพิ่มขึ้น”

กาลัชเชนโกยังระบุว่า อีกหนึ่งภัยคุกคามคือวิธีที่ทหารรัสเซียควบคุมตัวผู้เจ้าหน้าที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ปฏิบัติงานอยู่ในช่วงที่รัสเซียบุกยึด

โวโลดิเมียร์ ฟาลชอฟนิก วัย 64 ปี เป็นผู้จัดการกะที่เชอร์โนบิล เล่าว่า เขาได้กลับไปที่โรงไฟฟ้าเมื่อวันที่ 20 มี.ค. เมื่อกองทัพรัสเซียอนุญาตให้บุคลากรชุดเดิมที่เหนื่อยล้าสามารถหมุนเวียนกับเพื่อนร่วมงานจากเมืองสลาวูทิชที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่โรงไฟฟ้าจำนวนมากอาศัยอยู่

เขาบอกว่า เจ้าหน้าที่ในโรงไฟฟ้าต้องทำงานภายใต้แรงกดดันมหาศาล ไม่ใช่แค่เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นที่เชอร์โนบิล แต่ยังเป็นเพราะข่าวที่พวกเขาได้รับจากโลกภายนอกด้วย

“ญาติของเราเริ่มโทรมาบอกว่าเมืองนี้กำลังถูกโจมตี มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ... เราถามทหารรัสเซียว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาบอกว่าไม่มีทหารรัสเซียประจำอยู่ที่นั่น แต่เราได้ยินมาว่ามีการทิ้งระเบิด” เขากล่าว

ฟาลชอฟนิกยังกล่าวหาว่าทหารรัสเซียปล้นโรงไฟฟ้าด้วย “พวกเขาให้บุคลากรจาก Rosatom (สำนักงานนิวเคลียร์ของรัสเซีย) มาคุ้มกันเรา และในระหว่างการคุ้มกัน พวกเขาได้ไปเยี่ยมโกดังและปล้นของไปจากโกดัง” เขากล่าวเสริม

นอกจากนี้ กองกำลังพิทักษ์ชาติยูเครน 169 นายที่ดูแลโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลถูกขังอยู่ในบังเกอร์ใต้ดิน ซึ่งแคบ ไม่มีแสงธรรมชาติ ไม่มีอากาศบริสุทธิ์ และไม่ได้สื่อสารกับโลกภายนอก

เดนิส โมนาสเทียร์สกี รัฐมนตรีมหาดไทยยูเครน กล่าวว่า “พวกเขาถูกขังไว้ที่นี่เป็นเวลา 30 วันโดยไม่มีแสงสว่างและอาหารเพียงพอ พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอก”

รัฐมนตรีกล่าวว่า เขาเชื่อว่ากองกำลังพิทักษ์ชาติยูเครนเหล่านี้ถูกนำตัวไปยังรัสเซียแล้ว ผ่านทางเบลารุส ในฐานะเชลยศึก แต่ไม่รู้ข้อมูลแน่ชัด

“ณ วันนี้เราไม่รู้ชะตากรรมของพวกเขาเลย” เขากล่าว

นอกจากนี้ ยูเครนยังอ้างว่า ทหารรัสเซียได้บุกค้นห้องพักของเจ้าหน้าที่โรงไฟฟ้า มีเสื้อผ้า อุปกรณ์สุขอนามัย และของใช้ส่วนตัวอื่น ๆ ถูกรื้อกระจัดกระจายไปทั่วพื้น

“กองทัพรัสเซียรื้อเสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว เพื่อค้นหาเงิน ของมีค่า แล็ปท็อป ... มีการปล้นที่นี่ กองทัพรัสเซียขโมยคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่โรงไฟฟ้าไป” โมนาสเทียร์สกีกล่าว

ที่ผ่านมา รัฐบาลรัสเซียได้กล่าวถึงสิ่งที่ทหารของตนทำที่เชอร์โนบิลน้อยมาก โดยครั้งสุดท้ายที่พูดถึงคือ กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวในวันที่ 26 ก.พ. ว่า ยึดเชอร์โนบิลได้แล้ว และจะรับรองความปลอดภัยของโรงไฟฟ้าและสถานที่จัดเก็บเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ โดยไม่เคยชี้แจงว่า ทำไมต้องยึด และยึดแล้วทำอะไรบ้าง

รัสเซียบุกยูเครนให้ผลตรงข้าม? ฟินแลนด์-สวีเดนเข้าร่วมนาโตภายในครึ่งปี

ยูเครน กลับมาเผชิญวิกฤตอีกรอบ หลังกองทัพรัสเซีย ระดมโจมตีทางตะวันออก

เรียบเรียงจาก CNN

ภาพจาก CNN

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ