เริ่มที่เรื่องแรกก่อน สถานการณ์ในพื้นที่ตอนนี้ความสนใจอยู่ที่การสู้รบในเมืองมาริอูปอล เมืองท่าที่สำคัญของยูเครนที่ตั้งอยู่บนทะเลอาซอฟ ติดกับแคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์
มาริอูปอลคือเมืองที่รัสเซียให้ความสำคัญมาก นักวิเคราะห์หลายคนระบุว่ารัสเซียต้องยึดเมืองนี้ให้ได้ด้วยเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการประกาศว่า บรรลุเป้าหมายหารทำสงครามในบางส่วนแล้วกว่า 7 สัปดาห์ที่กำลังพลภาคพื้นดินล้อมเมืองไว้ ส่วนทางอากาศก็โจมตีอย่างหนัก
รัสเซียกลายเป็นชาติที่ถูกคว่ำบาตรมากที่สุด
รัสเซียใช้ขีปนาวุธ ‘คินชัล’ ทำลายโรงเก็บอาวุธในยูเครน
มีหลายสัญญานว่า สมรภูมิการรบในมาริอูปอลกำลังถึงจุดสุดท้าย หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมารัสเซียปล่อยภาพนี้ออกมาและทางการยูเครนยังไม่ออกมาปฏิเสธ
ภาพที่สถานีโทรทัศน์รัสเซียนำออกมาเผยแพร่เมื่อคืนที่ผ่านมา ทหารจากหน่วยนาวิกโยธินกองพลน้อยที่ 26 ของยูเครน ซึ่งเป็นกำลังหลักในการสู้รบกับทหารรัสเซียและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่มีรัสเซียหนุนหลังหลายสิบนาย ยกมือในลักษณะยอมจำนนและเดินออกจากพื้นที่การต่อสู้ โดยมีทหารรัสเซียที่มีสัญลักษณ์ผ้าสีขาวผูกที่แขนเดินตามประกบมีภาพทหารบางนายที่พยายามช่วยเหลือเพื่อนที่บาดเจ็บด้วยการแบกเปลที่ใส่ร่างออกมา
ภาพนี้เกิดขึ้นหลังการแถลงข่าวของโฆษกกระทรวงกลาโหมของรัสเซียไม่นานโดยเขาระบุว่า มีทหารจากกองพันนาวิกโยธินที่ 36 ของยูเครนยอมจำนนให้กองทัพรัสเซียทั้งสิ้น 1,026 นาย
จุดที่อยู่ในภาพของทหารยูเครนยอมจำนนคือ Azovstal นิคมอุตสาหกรรมผลิตเหล็กกล้าที่สำคัญของเมืองมาริอูปอล ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายของเมืองที่รัสเซียยังเข้าไปไม่ถึง และจุดนี้มีการต่อสู้อย่างหนักในช่วง
เมื่อวานนี้ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ซึ่งติดตามการทำข่าวทางฝั่งกองกำลังรัสเซียรายงานว่า เขาเห็นเปลวเพลิงลุกไหม้ขึ้นอย่างรุนแรงด้านในของ Azovstal ในขณะที่ทหารรัสเซียเตรียมอาวุธและเริ่มเคลื่อนรถหุ้มเกราะเข้าพื้นที่ ก่อนจะมีภาพของนาวิกโยธินของยูเครนยอมจำนน
ในการวีดีโอของรัสเซียที่มีการนำมาเผยแพร่ มีบทสัมภาษณ์ของทหารยูเครนที่ตกเป็นเชลยสงครามด้วยโดยมีเสียงของผู้สื่อข่าวถาม ทั้งหมดนี้เป็นพลทหารใช่หรือไม่ ก่อนที่ทหารยูเครนจะตอบว่า เป็นสิบเอก
ขณะที่ทหารยูเครนอีกคนบอกว่า เขาอยู่ในกลุ่มที่มีกำลังประมาณ 13-15 คน และต้องยอมจำนวนเพราะว่าถูกปิดล้อม
เซอร์ฮีย์ ออร์ลอฟ รองนายกเทศมนตรีของมาริอูปอลให้สัมภาษณ์บีบีซีว่า นาวิกโยธินกองพลน้อยที่ 36 ที่มีอยู่กว่า 1,000 คนยังไม่ได้ยอมจำนน โดยสามารถตีฝ่าวงล้อมของรัสเซียไปสมทบกับกองพันอาซอฟของยูเครนซึ่งประจำการในพื้นที่อีกแห่งหนึ่งได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม สิ่งเกิดขึ้นชี้ว่า กองกำลังยูเครนกำลังเสียเปรียบและหากรัสเซียควบคุม Azovstal ได้ จะเท่ากับว่า รัสเซียจะสามารถยึดเมืองมาริอูปอลได้อย่างสมบูรณ์
มาริอูปอลเป็นเมืองท่าที่สำคัญของยูเครน ตั้งอยู่บนทะเลอาซอฟ ระหว่างไครเมียกับดอนบาส การยึดมาริอูปอลได้จะทำให้เชื่อมต่อไครเมียของเข้ากับแผ่นดินรัสเซียได้สำเร็จ
กำลังหลักของรัสเซียในการรบกับยูเครนในมาริอูปอลคือ ฝ่ายยูเครนที่สนับสนุนรัสเซีย นั่นก็คือ กลุ่มแบ่งแยกดินแดนในแคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์ ซึ่งผู้นำของกลุ่มมีการปรากฏตัวแล้วหลายครั้งในสมรภูมิที่มาริอูปอล รวมถึงในวันที่มาริอูปอลกำลังจะตกเป็นของรัสเซียโดยสมบูรณ์
ทหารจากกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในโดเนตสก์และลูฮันสก์ถูกมอบหมายให้ดูแลพื้นที่สำคัญหลายจุด รวมถึงโรงละครของเมือง
โรงละครแห่งนี้ตกเป็นเป้าความสนใจเนื่องจากรัสเซียใช้ขีปนาวุธโจมตีอย่างหนักทั้งๆที่ที่มีประชาชนกว่า 1,200 คนรวมถึงเด็กจำนวนมากหลบภัยการสู้รบอยู่ โดยที่จุดนี้มีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 300 คน
ตอนนี้ทหารของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่และพบร่างผู้เสียชีวิตอีกเป็นจำนวนมาก ไม่น้อยเป็นเด็กและผู้หญิง
สภาพของเมืองมาริอูปอลแหลกราน วิธีที่รัสเซียใช้โจมตีเมืองมาริอูปอลต่างไปจากตอนที่โจมตีกรุงเคียฟเมืองหลวง ที่นี่รัสเซียใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า ผลาญภพ (Scorched Earth) ซึ่งหลักของกลยุทธ์นี้คือ การมุ่งทำลายทุกทุกสิ่งอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายตรงข้าม เช่นการทำลายแหล่งผลิตอาหาร ทำลายแหล่งอุตสาหกรรม โครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคมเพื่อคนคนยอมจำนน
นี่คือส่วนหนึ่งของสภาพเมืองในวันนี้ ทุกอย่างถูกทำลายจนหมดสิ้น รวมถึงชีวิตของผู้คนที่หนีไม่ทัน
ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุตัวเลขที่ชัดเจนของผู้เสียชีวิตในเมืองมาริอูปอลได้ แต่ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีเซเลนสกีรวมถึงนายกเทศมนตรีของเมืองระบุว่า ไม่น่าจะต่ำกว่า 20,000 คน
น้ำมันโลกพุ่ง รับสหภาพยุโรปจ่อเพิ่มความรุนแรงคว่ำบาตรรัสเซีย
และล่าสุดนายกเทศมนตรีมาริอูปอล VADYM BOICHENKO แถลงว่า รัสเซียกำลังพยายามทำลายหลักฐานของการก่ออาชญากรรมสงครามทำลายหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องการการใช้สารเคมีสังหารผู้คน
สำหรับมาริอูปอลไม่มีข้อสงสัยว่า กำลังจะตกอยู่ในความครอบครองของรัสเซีย คำถามคือ ต่อจากนี้อะไรคือแผนของรัสเซีย รัสเซียจะทำอะไรต่อหลังยึดที่นี่ได้
ให้ดูแผนที่นี้ เมื่อรัสเซียยึดมาริอูปอลได้แล้ว เท่ากับว่ารัสเซียจะได้เมืองท่าที่สำคัญทางตอนใต้อีกเมืองหลังก่อนหน้านี้ได้ไครเมียไปแล้วเมื่อปี 2014
จากแผนที่จะเห็นว่า หลังจากนี้แผ่นดินไครเมียจะถูกเชื่อมต่อกับภูมิภาคดอนบาสของยูเครนซึ่งรัสเซียมีเป้าหมายจะยึดทั้งหมดเช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งหมดนี้จะเชื่อมต่อเข้ากับแผ่นดินใหญ่รัสเซีย
แต่รัสเซียอาจไม่หยุดแค่นั้น เพราะเมืองท่าบนทะเลทุกเมืองล้วนเป็นเมืองที่รัสเซียอยากได้ ไม่ว่าจะเป็นมายลิโตปอล ( Melitoplol) ที่อยู่บนทะเลอาซอฟ
ถัดมาคือถัดจากไครเมียบนทะเลดำที่ยึดได้เมื่อปี 2014 คือ และเชื่อมต่อไปเรื่อยๆจนถึงเมืองท่าที่สำคัญอีกเมืองนั่นคือ โอเดสซา ในทางยุทธศาสตร์เมืองนี้สำคัญมากที่สุดสำหรับยูเครนเพราะมีท่าเรือใหญ่ที่สุดในการส่งออกนำเข้าสินค้า
และที่สำคัญ ที่นี่เป็นฐานทัพเรือของยูเครนที่ต้องย้ายมาจากไครเมียหลังจากเสียไครเมียให้กับรัสเซียไป
เมืองบริเวณทะเลอาซอฟและทะเลดำคาดว่าจะเป็นสมรภูมิสู้รบต่อไป โดยรัสเซียมีการประจำเต็มพิกัดในทะเลดำ ส่วนยูเครนน่าจะสู้ตายเพราะเสียเมืองท่าที่สำคัญที่สุดบนทะเลดำนี้ไม่ได้สัญญานการการสู้รบแย่งชิงพื้นที่นี้เกิดขึ้นแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
มักซิม มาร์เชนโก ผู้ว่าการภูมิภาคโอเดสซาระบุว่า กองทัพยูเครนได้ยิงขีปนาวุธ Neptune 2 ลูกเข้าใส่เรือลาดตระเวนที่ติดตั้งขีปนาวุธของรัสเซียที่มีชื่อว่า มอสคาวา (Moskva) ซึ่งเป็นเรือธงสำคัญประจำกองเรือทะเลดำของรัสเซีย ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม ไม่มีการแสดงหลักฐานว่า เรือมอสคาวาถูกขีปนาวุธยิงจริงหรือไม่
สำนักข่าว Interfex ของรัสเซียเปิดเผยอ้างอิงกระทรวงกลาโหมรัสเซียหลังจากนั้นว่า เรือมอสคาวาเกิดความเสียหายอย่างหนักจริง โดยความเสียหายเกิดมากจากเหตุไฟไหม้ ก่อนที่ไฟจะลามไปติดเครื่องกระสุนที่เก็บอยู่บนเรือ ความเสียหายไม่ได้เกิดขึ้นจากการถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ
ทั้งนี้เรือที่มีทหารประจำการอยู่ 500 นายไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเพราะอพยพออกมาทัน
ล่าสุดมีภาพถ่ายดาวเทียมของ Maxar Tecgnology ออกมา ชี้ให้เห็นภาพของเรือ Moskava เมื่อวันที่ 13 เมษายน ที่บริเวณฐานทัฟสวาโตปอลในแคว้นไครเมีย เป็นภาพไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่เรือลำนี้จะถูกไฟไหม้
เรือมอสโควาเป็นเรือลาดตระเวนติดอาวุธนำวิถี สร้างขึ้นในช่วงทศวรรษ 1980 ในยุคของสหภาพโซเวียตที่เมืองท่ามิโคลายีฟที่ปัจจุบันอยู่ในประเทศยูเครน อาวุธชิ้นหลักบนเรือลำนี้คือ ขีปนาวุธต่อต้านเรือรบ P-1000 Valkan โดยมอสโความีบทบาทในการรบที่ประเทศซีเรียมาแล้ว
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 มีนาคม เรือที่ชื่อ ‘Orsk’ ซึ่งเป็นเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ของรัสเซียที่จอดเทียบท่าอยู่ในเบียร์เดียนสค์ เมืองท่าทางตอนใต้ของยูเครน ซึ่งที่นี่เป็นที่จอดเรือรบของรัสเซียหลายลำ ก็ถูกขีปนาวุธของยูเครนยิงเข้าใส่ก่อนจะเกิดการระเบิดอย่างรุนแรงและเสียหายอย่างหนัก
รัสเซียจะรุกต่อไปยังเมืองอื่นหลังจากมาริอูปอลหรือไม่ คำตอบคือมีแนวโน้มสูง
ส่วนทางตะวันออกในภูมิภาคดอนบาสการรบก็เริ่มหนักขึ้นหลังรัสเซียขนทหารมาเพิ่มเติมต่อเนื่อง
นั่นทำให้ผู้นำยูเครนออกมาร้องขอให้ชาติตะวันตกส่งอาวุธให้กับยูเครนต่อเนื่อง อย่าได้ขาด และที่สำคัญขอเป็นอาวุธที่หนักขึ้นเพราะคาดว่าสงครามจะถูกยกระดับ
เมื่อคืนที่ผ่านมามีรายงานว่าผู้นำสหรัฐ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนเกี่ยวกับเรื่องการส่งอาวุธให้ยูเครนเพิ่มเติม โดยเฉพาะอาวุธหนัก
หลังจากนั้นโฆษกเพนตากอน ก็เปิดแถลงข่าวระบุว่า รัฐบาลสหรัฐตัดสินใจมอบความช่วยเหลือทางด้านการทหารให้ยูเครนอีก 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 2 หมื่น 6 พันล้านบาท
เป็นที่น่าสังเกตุว่า มีอาวุธหลายตัวเป็นอาวุธที่หนักขึ้น และเพิ่งจะมีการส่งมอบให้กับยูเครนเป็นครั้งแรก ยกตัวอย่างเช่น
•ยานเกราะสายพานลำเลียงพล M113 จำนวน 200 คัน
•เรดาร์ตรวจการณ์ที่ตั้งปืนใหญ่ ซึ่งสามารถระบุตำแหน่งที่ตั้งปืนใหญ่ของข้าศึกได้
•ยานเกราะสายพานลำเลียงพล M113 จำนวน 200 คัน
•เฮลิคอปเตอร์ Mi17
แต่ตัวที่ได้รับความสนใจและมีการพูดในการแถลงข่าวคือ ปืนใหญ่เอ็ม 198 ฮาวอิตเซอร์ (M198 howitzer)
ตัวนี้เป็นปืนใหญ่ลากจูงขนาดกลาง 155 มิลลิเมตร เป็นอาวุธหนัก ประสิทธิภาพสูง มีเทคโนโลยีที่มีความซับซ้อน ซึ่งโฆษกเพนตากอนบอกว่า มีความจำเป็นที่ทหารยูเครนต้องได้รับการฝึกฝนในการใช้จากทางสหรัฐก่อน
โฆษกเพนตากอนไม่ได้ให้รายละเอียดออกมาว่า สหรัฐฯจะ Traine หรือฝึกทหารยูเครนให้ใช้อาวุธหนักเหล่านี้อย่างไรในวันที่สหรัฐมีความระมัดระวังอย่างสูงในการไม่ส่งเจ้าหน้าที่ทางการทหารไปที่นั่นในยามสงคราม
เรือรบลำสำคัญของรัสเซียจมกลางทะเลดำ
นักวิเคราะห์ออกมาตั้งข้อสังเกตุถึงการมอบอาวุธลักษณะนี้ โดยเฉพาะปืนใหญ่เอ็ม 198 ฮาวอิตเซอร์ที่มีอานุภาพและประสิทธิภาพสูงมากที่สุดตัวหนึ่งของกองทัพสหรัฐให้กับทางยูเครนว่านี่คือสัญญานการเปลี่ยนนโยบายทางการทหารของสหรัฐในยูเครนว่าจะทำให้หนักและมากขึ้นเพราะประเมินว่ากรทำสงครามในเฟส 2 ของรัสเซียจะหนักหน่วงขึ้น