อาจใช้ "วันแห่งชัยชนะรัสเซีย" ประกาศสงครามกับยูเครนอย่างเป็นทางการ
เสนอห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย 6 เดือน
กองกำลังยูเครนที่ยังคงอยู่ภายในโรงงานเหล็กอาซอฟสตอล ฐานที่มั่นสุดท้ายของยูเครนในเมืองมาริอูปอล ระบุว่า กองทัพรัสเซียได้เริ่มโจมตีโรงงานเหล็กอีกครั้ง โดยเดนิส โปรโกเปสโก ผู้บัญชาการกองพันอาซอฟ ระบุในวิดีโอคลิปที่โพสต์ลงเทเลแกรมเมื่อวานนี้ว่า กองทัพยูเครนที่อยู่ภายในอาซอฟสตอลกำลังต่อสู้อย่างดุเดือดสองวันต่อเนื่องกันแล้ว และว่าสถานการณ์นั้นลำบากมาก ๆ เลยทีเดียว
“ยูเครนจงรุ่งเรือง สำหรับวันที่ 70 ป้อมปราการมาริอูปอลได้ยืนหยัดกองกำลังของศัตรูมา ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน เราได้ตรึงกำลังปกป้องโดยรอบโรงงานอาซอฟสตอล นี่เป็นวันที่สองแล้วนับตั้งแต่ศัตรูบุกเข้ามายังดินแดนของโรงงาน เป็นการต่อสู้ที่หนักหน่วง เต็มไปด้วยการหลั่งเลือด ผมภูมิใจในทหารของเราที่สร้างความพยายามระดับเหนือมนุษย์ในการกดดันศัตรู ผมซาบซึ้งใจต่อโลกใบนี้สำหรับการสนับสนุนปราการมาริอูปอล ทหารของเราสมควรได้รับมัน สถานการณ์ลำบากอย่างยิ่ง แต่ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร เราจะเดินหน้าทำตามคำสั่งปกป้องตรงนี้ต่อ” ผู้บัญชาการกองพันอาซอฟ
โดยส่วนการอพยพพลเรือนจากมาริอูปอลยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การดำเนินงานของสหประชาชาติและคณะกรรมการกาชาดสากล โดยเมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีเปิดเผยว่า มีพลเรือนอพยพจากมาริอูปอล 344 คน และมุ่งหน้าไปยังเมืองซาโปริซเซีย พื้นที่ของยูเครน โดยที่นั่นจะมีการมอบความช่วยเหลือที่จำเป็นให้แก่อพยพ
นอกจากนี้ ผู้นำยูเครนยังส่งข้อความถึงสหประชาชาติ ขอให้แอนโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ช่วยชีวิตประชาชนที่ยังอยู่ในอาซอฟสตอลและเมืองมาริอูปอลอีกด้วย โดยระบุว่า ทุกคนล้วนสำคัญ และยูเครนขอให้สหประชาชาติช่วยเหลือประชาชนเหล่านั้น นอกจากนี้ยังขอบคุณเลขาธิการยูเอ็น สำหรับความสำเร็จในการอพยพพลเรือนออกมาในช่วงสัปดาห์นี้
รัสเซียเสนอหยุดยิง 3 วัน ในอาซอฟสตอล
ขณะที่ฝั่งกองทัพรัสเซีย เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 5 ถึง 7 พฤษภาคมนี้ รัสเซียจะหยุดเคลื่อนไหวทางการทหาร เพื่อเปิดทางให้พลเรือนอพยพออกจากโรงงานอาซอฟสตอลเป็นเวลาสามวัน โดยระบุว่า ระเบียงมนุษยธรรมจะเปิดขึ้นเพื่ออพยพพลเรือน ซึ่งรวมถึงคนงานของโรงงาน ผู้หญิง และเด็ก ออกมา ระหว่างเวลา 8.00 น. ถึงเวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของมอสโก
ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ กระทรวงกลาโหมของรัสเซียออกมา ระบุว่า ได้โจมตีสถานีรถไฟในยูเครนไปหกแห่ง ด้วยการทิ้งระเบิดเข้าใส่ โดยบอกว่า สถานีเหล่านี้เป็นจุดที่ยูเครนใช้ในการขนส่งอาวุธที่ได้รับมาจากชาติตะวันตก นอกจากนี้ยังได้โจมตีเป้าหมายทางการทหารของยูเครนไป 40 แห่งด้วยกัน และเผยแพร่ภาพวิดีโอที่ระบุว่า เป็นการยิงขีปนาวุธร่อนจากทะเลดำ และมันไปตกในเป้าหมายในยูเครน แต่ไม่ได้มีการระบุแน่ชัดว่าคือที่ใด
มีการคาดการณ์ว่า รัสเซียกำลังเร่งระดมโจมตีในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะทางตะวันออก ทางตอนใต้ เพราะรัสเซียอาจจะอยากประกาศสงครามกับยูเครนอย่างเป็นทางการ ในวันฉลองชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 ในสัปดาห์หน้า ซึ่งทางรัสเซียก็ออกมาปฏิเสธเรื่องนี้
รัสเซียปัด “ปูติน” จะประกาศสงครามในวัน V DAY
ดิมิทรี เพสคอฟ โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวว่า พิธีเฉลิมฉลองชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 ในวันจันทร์ที่ 9 พ.ค. นี้ จะไม่มีการประกาศการทำสงครามกับยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ โดยในขณะนี้เจ้าหน้าที่รัสเซียยังถือว่าการส่งกำลังทหารบุกยูเครนเป็นปฏิบัติการพิเศษเพื่อปลดอาวุธกองทัพยูเครนและกำจัดลัทธินาซี
นอกจากนี้ เพสคอฟ ยังปฏิเสธการะแสข่าวลือที่อ้างว่าวันดังกล่าวจะมีการประกาศระดมกำลังทหารและทรัพยากรต่างๆ จากทั่วประเทศรัสเซียเพื่อบุกยึดภูมิภาคดอนบาส ทางภาคตะวันออกของยูเครน
ขณะที่เมื่อคืนวานนี้ รัสเซียได้เริ่มซักซ้อมพิธีฉลองวันชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพได้เคลื่อขบวนยานพาหนะทางทหารและยุทโปกรณ์ไปตามถนนสายต่างๆในกรุงมอสโก เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการสวนสนามในวันที่ 9 พ.ค. นี้ ซึ่งไฮไลท์ของงานจะเป็นการกล่าวปราศรัยต่อสาธารณชนของ ประธานาธิบดี ปูติน
ขณะเดียวกัน หลายฝ่ายยังคงใช้มาตรการกดดันรัสเซียอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด สหภาพยุโรปประกาศมาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ต่อรัสเซีย ซึ่งคราวนี้จะพุ่งตรงไปที่การห้ามนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย
EU เสนอแบนนำเข้าน้ำมัน-ก๊าซจากรัสเซีย
สหภาพยุโรป หรืออียู เสนอมาตรการเข้มข้นขึ้นในการลงโทษรัสเซีย สำหรับการรุกรานยูเครน ซึ่งรวมถึงการสั่งห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียและมาตรการอื่นๆอีก
โดยนางเออร์ซุลา วอน เดอร์ เลเย่น ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผยว่า มาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่นี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อรัสเซียให้มากที่สุด ขณะเดียวกันก็สร้างผลกระทบต่อยุโรปให้น้อยที่สุด
“วันนี้ เราจะเสนอให้สั่งห้ามการนำน้ำมันทั้งหมดของรัสเซียจากยุโรป นี่จะเป็นการสั่งห้ามการนำเข้าโดยสมบูรณ์แบบในน้ำมันรัสเซีย ผ่านการขนส่งทางทะเล และทางท่อส่ง น้ำมันดิบและน้ำมันกลั่น เราจะทำให้แน่ใจว่าเราจะยุติการนำเข้าน้ำมันรัสเซียด้วยการจัดการอย่างมีระบบ” ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าว
ทั้งนี้ อียูพยายามหาวิธีลดการพึ่งพาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียมาตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ให้คำมั่นว่าจะลดการนำเข้าก๊าซให้ได้สองในสามภายในสิ้นปี 2022 นี้ และตอนนี้ แผนการใหม่คือยุติการนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียให้ได้ภายในระยะเวลาหกเดือน และหยุดนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นแล้วภายในสิ้นปี 2022