
สหรัฐฯ โต้ จีน ยืนยันช่องแคบไต้หวันเป็นน่านน้ำสากล
เผยแพร่
อีกหนึ่งความตึงเครียดของโลกที่รอวันปะทุคือ ประเด็นอธิปไตยของไต้หวัน สำหรับจีน สั้นๆ ง่ายๆ ไต้หวันคือส่วนหนึ่งของจีน หลักการนี้นำไปสู่การที่ทำให้จีนประกาศความเป็นเจ้าของเหนือพื้นที่อีกจุดคือ ช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเป็นน่านน้ำที่อยู่ระหว่างจีนกับไต้หวัน
อย่างไรก็ตาม ไต้หวันและสหรัฐซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญไม่คิดเช่นนั้น ทั้งคู่มองว่าช่องแคบไต้หวันคือน่านน้ำสากล ทุกชาติมีสิทธิใช้และผ่านได้หลักการที่ต่างกันเช่นนี้ทำให้ช่องแคบไต้หวันเป็นจุดเปราะบางและเป็นชนวนที่ทำให้เกิดความตึงเครียดมาตลอด รวมถึงในวันนี้ด้วยก่อนที่จะมาดูว่าความตึงเครียดที่เกิดขึ้นตอนนี้มาจากอะไรและจะนำไปสู่อะไร มาดูก่อนว่าช่องแคบไต้หวันอยู่ตรงไหน
“สหรัฐฯ”ฉุนจีนติดตั้งขีปนาวุธในทะเลจีนใต้
สหรัฐฯ-จีนโต้กันเดือด หารือจนท.ระดับสูงครั้งแรก
ช่องแคบไต้หวัน เป็นน่านน้ำความกว้าง 180 กิโลเมตร ตั้งอยู่ระหว่างมณฑลฝูเจี้ยนในจีนแผ่นดินใหญ่ และเกาะไต้หวัน
ช่องแคบนี้เป็นส่วนหนึ่งของทะเลจีนใต้ และเป็นเส้นทางเดินเรือขึ้นเหนือจากทะเลจีนใต้ไปยังทะเลจีนตะวันออก จุดนี้เป็นพื้นที่มีข้อพิพาท และเปราะบางต่อความขัดแย้ง เพราะอะไร?
ตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเล ระบุว่าประเทศต่างๆ สามารถอ้างสิทธิเหนือพื้นที่ 12 ไมล์ทะเลจากชายฝั่งว่าเป็นทะเลอาณาเขตของตัวเองได้ โดยมีอธิปไตยเหนือพื้นที่พื้นที่ดังกล่าวเต็มที่
นี่คือจุดที่จีนใช้อ้างว่าช่องแคบนี้คือส่วนหนึ่งของน่านน้ำตน จากนโยบายจีนเดียวที่ถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนแผ่นดินใหญ่
แต่สหรัฐฯ มองต่างออกไป สหรัฐถือว่าช่องแคบไต้หวันเป็นน่านน้ำสากล ความตึงเครียดจึงเกิดขึ้นแทบทุกครั้งที่เรือรบของสหรัฐฯ และพันธมิตรอย่างสหราชอาณาจักรและแคนาดาแล่นผ่านบริเวณนี้ ที่ทำให้จีนไม่พอใจมากที่สุดครั้งหนึ่ง คือ เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เมื่อสหรัฐส่งเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถีชั้นอาร์เลห์เบิร์ค “ยูเอสเอส มิลลิอุส” ผ่านช่องแคบไต้หวัน โดยระบุว่าเป็นการแล่นเรือตามภารกิจปกติประจำภูมิภาค
ในคราวนั้นกระทรวงการต่างประเทศจีนเปิดแถลงข่าวอัดสหรัฐทันทีว่า การนำเรือรบเข้ามาในพื้นที่นี้ถือได้ว่าสหรัฐกำลังเล่นกับไฟ
ความตึงเครียดเกี่ยวกับช่องแคบไต้หวันกลับมาอีกครั้ง หลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จู่ๆก็มีแถลงการณ์จากกระทรวงการต่างประเทศจีนที่ระบุว่า จีนมีอธิปไตยและอำนาจเหนือช่องแคบไต้หวัน และการที่บางประเทศอ้างว่า ช่องแคบนี้เป็นน่านน้ำสากลคือเรื่องที่โกหก ท่าทีของจีนแบบนี้ ทำให้วันต่อมาคือ 14 มิถุนายน ไต้หวันออกมาประกาศหักล้างข้ออ้างของจีนทันที
นายกรัฐมนตรี ‘ซูเจิงชาง’ ของไต้หวันบอกว่าช่องแคบไต้หวันไม่ใช่ทะเลภายในของจีนแน่นอน พร้อมย้ำว่าช่องแคบไต้หวันเป็นพื้นที่ทางทะเลเพื่อการเดินเรือนานาชาติอย่างเสรี และในวันนี้โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐออกมาสำทับช่วยไต้หวันในประเด็นนี้
โดย เน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในอีเมลที่ส่งถึงสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ช่องแคบไต้หวันเป็นน่านน้ำสากล ซึ่งหมายความว่าช่องแคบนี้เป็นพื้นที่ทะเลหลวง หรือพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ในอาณาเขตของประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีเสรีภาพต่างๆที่ รวมถึงเสรีภาพในการเดินเรือและการบินผ่านซึ่งถูกรับรองภายใต้กฎหมายสากล
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ยังบอกด้วยว่าโลกยึดถือเรื่องผลประโยชน์ในสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันมายาวนาน สหรัฐฯ มองว่านี่เป็นหัวใจของความมั่นคงและรุ่งเรืองของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และสหรัฐฯ จะดำเนินกิจกรรมทั้งการบิน แล่นเรือ หรืออื่นๆ ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายสากลในช่องแคบไต้หวันต่อไป
เขาย้ำด้วยว่า สหรัฐฯ มีความกังวลที่จีนใช้วาทกรรมก้าวร้าวและดำเนินกิจกรรมที่เป็นการคุกคามไต้หวัน
มีความเห็นที่น่าสนใจจาก ‘เย่ เหยาหยวน’ ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์จีน-ไต้หวัน จากมหาวิทยาลัยเซนต์โทมัสในสหรัฐอเมริกา ที่เผยกับสำนักข่าวเรดิโอ ฟรี เอเชีย
โดยผู้เชี่ยวชาญรายนี้บอกว่า การที่จีนยกเรื่องช่องแคบไต้หวันขึ้นมาขณะนี้อาจจะคือการโยนหินถามทาง หรือการปูทางไว้สำหรับการใช้กำลังทหารรุกรานไต้หวัน
ที่ความเห็นนี้น่าสนใจเพราะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเพิ่งจะมีวิวาทะเผ็ดร้อนระหว่างสหรัฐกับจีนไป และหลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามที่เกี่ยวข้องกับอธิปไตยของไต้หวันหรือไม่
วิวาทะที่เผ็ดร้อนเกิดขึ้นในระหว่างการประชุมด้านความมั่นคงที่เรียกว่า แชงกรีล่า ไดอะล็อค ( Shangri-La Dialogue) ที่จัดขึ้นประเทศสิงคโปร์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหรัฐได้พูดจุดยืนสหรัฐต่อกรณีไต้หวันว่า สหรัฐยึดมั่นกับหลักการจีนเดียว แต่ในขณะเดียวกันก็จะดำเนินการตามกฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน (Taiwan Relations Act) ซึ่งอนุญาตให้มีการส่งอาวุธให้ไต้หวันเพื่อป้องกันตนเองในกรณีที่ถูกรุกราน
รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐบอกว่า การคงไว้ซึ่งสันติภาพในภูมิภาคนี้เป็นเรื่องสำคัญ ประเทศในอินโด-แปซิฟิกไม่สมควรที่จะต้องมาเผชิญกับการข่มขู่ทางการเมือง
การพูดแบบนี้ทำให้ที่ประชุมเดือดทันที รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งชาติจีน พลเอกเว่ย เฟ็งเหอ ขึ้นประกาศบนเวทีว่า การรวมไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนคือสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นและไม่มีใครหยุดจีนได้ และใครก็ตามที่คิดจะหยุด ใครก็ตามที่คิดแบ่งแยกไต้หวันจากจีน จีนไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากทำสงคราม และจะเป็นสงครามที่จีนจะสู้จนหยดสุดท้าย
หลังจากประกาศกร้าว วันต่อมาคือวันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน จีนก็ออกแถลงการณ์ประกาศว่า ช่องแคบไต้หวันเป็นของจีน ไม่ใช่น่านน้ำสากล ก่อนจะถูกไต้หวันและสหรัฐโต้กลับ แล้วโอกาสที่การวิวาทะจะกลายมาเป็นการใช้กำลังทางการทหารหรือไม่
นักวิเคราะห์จำนวนมากยังประเมินว่า แม้จีนจะใช้โวหารก้าวร้าวคุกคาม แต่การจะใช้กำลังบุกไต้หวันนั้นไม่น่าจะเป็นไปได้ อย่างน้อยก็ในตอนนี้ เพราะด้วยเศรษฐกิจของจีนที่มีความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลกอยู่มากกว่ารัสเซีย ทำให้จีนก็ตระหนักดีถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ไม่เฉพาะกับตัวเอง แต่กับทั้งโลก
โดยจุดสำคัญที่น่าจะเป็นตัวกระตุ้นให้จีนส่งกำลังบุกไต้หวัน ก็คือการประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการของไต้หวัน แต่ประธานาธิบดี ‘ไช่อิงเหวิน’ ของไต้หวันเองก็เลี่ยงที่จะทำแบบนั้นมาตลอด แม้เธอจะยืนยันว่าไต้หวันมีอธิปไตยของตัวเองแล้วก็ตาม ขณะที่คนไต้หวันส่วนใหญ่ก็ยังสนับสนุนการรักษาสถานะปัจจุบันที่เป็นอยู่กับจีนด้วย
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline