ซาราห์ แซนเดอส์ โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐฯ แถลงว่า รัฐบาลสหรัฐฯ เคยแสดงความกังวลโดยตรงต่อรัฐบาลจีนเกี่ยวกับการส่งกำลังทหารและยุทโธปกรณ์ไปประจำการในทะเลจีนโต้ซึ่งหลายประเทศอ้างกรรมสิทธิ์การครอบครอง
คำแถลงของแซนเดอส์ เกิดขึ้นหลังจากที่สำนักข่าว CNBC รายงานโดยอ้างคำพูดของแหล่งข่าวจากหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ที่อ้างว่ากองทัพจีนได้ทำการติดตั้งขีปนาวุธต่อต้านเครื่องบินรบและเรือรบในหมู่เกาะสแปรตลีย์ ในทะเลจีนใต้ใกล้ๆกับฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จีนติดตั้งขีปนาวุธในหมู่เกาะดังกล่าว
โดย แซนเดอส์ ยืนยันว่าจะดำเนินมาตรการตอบโต้จีนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมทั้งจะจับตาความเคลื่อนไหวของจีนในทะเลจีนใต้ต่อไป
ส่วนกระทรวงการต่างประเทศของจีน ยืนยันว่าความเคลื่อนไหวทางทหารที่เกิดขึ้นในทะเลจีนใต้ไม่มีเจตนาที่จะสร้างการเผชิญหน้าและไม่มีการกำหนดเป้าหมายเพื่อโจมตีใคร ซึ่งการติดตั้งยุทโธปกรณ์ดังกล่าวเป็นไปเพื่อป้องกันอธิปไตยของชาติ
คลังสหรัฐฯเผยเจรจากำแพงภาษีกับจีนมีแนวโน้มดี
ขณะที่ นาย สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยขณะเดินทางเยือนประเทศจีนเพื่อเจรจาเกี่ยวกับข้อพิพาทการตั้งกำแพงภาษีนำเข้า ว่าการพูดคุยเป็นไปด้วยดี โดยการเจรจาในครั้งนี้คาดว่าจะมีประเด็นหลักคือการที่บริษัทสัญชาติอเมริกันที่ลงทุนในจีนถูกบังคับให้ถ่ายทอดเทคโลยีให้กับบริษัทจีนที่รัฐเป็นผู้บริหาร