ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นชาวเม็กซิกัน ถูกตั้งข้อหาพกพาอาวุธปืนขณะพักอาศัยในสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย โดยทั้งคู่และพลเมืองชาวอเมริกันอีกคน ที่เป็นคนขับรถบรรทุก ถูกแกะรอยตามจับกุมได้ไม่นาน หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพบร่างผู้อพยพ 51 ศพ ท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ที่ถูกนำมาจอดทิ้งไว้ใกล้ทางรถไฟ ชานเมืองซาน อันโตนิโอ รัฐเท็กซัส เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์นี้ถือเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมจากขบวนการลักลอบค้ามนุษย์ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์
พบผู้ลักลอบเข้าเมืองตายหมู่ 46 ศพ ท้ายรถบรรทุกพ่วงในสหรัฐฯ
สภาสหรัฐฯ ไฟเขียว งบสร้างกำแพงชายแดนเม็กซิโก
สหรัฐฯ หนาวจัดถึงตาย อุณหภูมิต่ำสุด -51 องศา
ผลการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่า จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 51 คน แบ่งเป็นผู้ชาย 39 คน ผู้หญิง 12 คน แต่ไม่มีเด็ก และในจำนวนนี้ ทราบแล้วว่าเป็นชาวเม็กซิกัน 22 คน ชาวกัวเตมาลา 7 คน และชาวฮอนดูรัส 2 คน ส่วนที่เหลือ ยังไม่ทราบสัญชาติ
ทั้งหมดติดอยู่ในรถบรรทุกที่ไม่มีระบบปรับอากาศหรือน้ำดื่ม ท่ามกลางคลื่นความร้อน อุณหภูมิสูงสุดในพื้นที่ พุ่งแตะ 39.4 องศาเซลเซียส
เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปพบศพเล่าว่า ร่างผู้เสียชีวิตกองทับกันอยู่ท้ายรถ และเมื่อนำมือไปสัมผัส จะพบว่า บางศพร้อนจี๋ นอกจากนี้ ยังมีศพบางส่วนกระจัดกระจายออกมาด้านนอก เนื่องจากประตูท้ายรถถูกเปิดทิ้งไว้
ส่วนผู้รอดชีวิต มีทั้งหมด 16 คน เป็นเด็ก 4 คน ถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว
ด้านทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องที่น่ากลัว และน่าเศร้า ซึ่งประธานาธิบดี โจ ไบเดน รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว
ขณะที่ประธานาธิบดี อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ของเม็กซิโก ระบุว่า ปัญหาความยากจน แก๊งลอบส่งคนเข้าเมือง และการไม่ควบคุมดูแลเรื่องการข้ามแดนให้เป็นระบบ คือ สาเหตุของโศกนาฏกรรมนี้ ซึ่งตนจะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาหารือกับไบเดน ระหว่างการเยือนกรุงวอชิงตัน ดีซี ในวันที่ 12 ก.ค.นี้
ภาพจาก AFP, Reuters
ญาตินักโทษเดือด ปะทะ จนท. หลังจลาจล-ไฟไหม้เรือนจำโคลอมเบีย ดับ 51 คน
สหรัฐฯ สั่งขึ้นบัญชีดำ 5 บริษัทจีน อ้างสนับสนุนกองทัพรัสเซีย