เมื่อวานนี้ (14 ก.ค.) การประชุม 4 ฝ่ายระหว่าง รัสเซีย ยูเครน ตุรเคีย และสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้ข้อสรุปว่า จะมีการเปิดเส้นทางให้ยูเครนสามารถส่งออกสินค้าอาหารและการเกษตรได้อีกครั้ง โดยจะมีการลงนามความร่วมมือในสัปดาห์หน้า
หลังข้อสรุปดังกล่าว สหรัฐฯ ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวโดยประกาศชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรว่า “จะช่วยอำนวยความสะดวกให้รัสเซียสามารถส่งออกอาหารและปุ๋ยได้” เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการลดต้นทุนและราคาอาหารโลก
ลดความตึงเครียด ลิทัวเนียยอมให้สินค้ารัสเซียผ่านไปยังคาลินินกราด
ได้ข้อสรุป! ยูเครนใกล้จะส่งออกสินค้าอาหาร-การเกษตรได้อีกครั้ง
สหรัฐฯ เผย อิหร่านเตรียมจัดหาโดรน-UAV ส่งให้รัสเซีย
ยูเครนเป็นผู้ผลิตข้าวสาลี ข้าวโพด และน้ำมันดอกทานตะวันรายใหญ่ที่สุดของโลก ขณะที่รัสเซียก็เป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีและปุ๋ยรายใหญ่เช่นกัน การที่สองประเทศนี้ไม่สามารถส่งออกสินค้าอาหารและการเกษตรของตัวเองได้ จึงเป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อราคาอาหารทั้งโลก
สหประชาชาติและตุรกีเป็นคนกลางเจรจาเพื่อให้รัสเซียและยูเครนสามารถกลับมาส่งออกสินค้าอาหารและการเกษตรได้ เนื่องจากนับตั้งแต่รัสเซียเริ่มปฏิบัติการพิศษทางทหารในยูเครน ได้ส่งผลให้ราคาธัญพืช น้ำมันประกอบอาหาร เชื้อเพลิงและปุ๋ย พุ่งสูงขึ้นทั้งหมด จนเสี่ยงเกิดวิกฤตอาหารทั่วโลก
สหรัฐฯ จึงมีนโยบายพยายามที่จะอำนวยความสะดวกในการส่งออกอาหารและปุ๋ยของรัสเซีย กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่า จะอนุญาตให้รัสเซียขายและขนส่งผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร รวมทั้งยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ และจะไม่ถือเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของสหรัฐฯ
สหรัฐฯ เน้นย้ำอีกว่า ไม่มีมาตรการคว่ำบาตรการผลิต การขาย หรือการขนส่งสินค้าเกษตรของรัสเซีย รวมถึงปุ๋ย และไม่ได้ห้ามการประกันภัยการขนส่งสินค้าหรือผลิตภัณฑ์เหล่านี้ สร้างความมั่นใจให้กับธนาคาร บริษัทขนส่ง และบริษัทประกันภัยต่าง ๆ ว่า สามารถทำงานกับรัสเซียในการส่งออกอาหารได้โดยไม่ต้องกังวล
ก่อนหน้านี้ ลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า สหรัฐฯ พร้อมที่จะออกคำรับรองเป็นลายลักษณ์อักษรหรือ “จดหมายรับรอง” ให้แก่บริษัทขนส่งและประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกสินค้าของรัสเซีย
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า “สหรัฐฯ สนับสนุนความพยายามของสหประชาชาติในการนำธัญพืชของยูเครนและรัสเซียออกสู่ตลาดโลก และลดผลกระทบจากสงครามในยูเครนที่มีซัพพลายและราคาอาหารทั่วโลก”
ด้าน เอดูอาร์ด เซอร์นิน หัวหน้าสหภาพผู้ส่งออกธัญพืชรัสเซีย กล่าวถึงการตัดสินใจของสหรัฐฯ ว่าเป็น “การแสดงความปรารถนาดี” และ “ก้าวที่สำคัญในการต่อสู้กับความอดอยากของโลก”
เขาบอกว่า “เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องจะทำตามตัวอย่างนี้ และออกคำชี้แจงและใบอนุญาตที่จำเป็นเพื่อขจัดการคว่ำบาตรที่ขัดขวางการจัดหาอาหาร-ธัญพืชให้กับประเทศที่ต้องการความช่วยเหลือ”
การรุกรานและการปิดล้อมท่าเรือยูเครนของรัสเซียตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. ทำให้เรือสินค้าหลายสิบลำติดค้างอยู่ในยูเครน และธัญพืชประมาณ 20 ล้านตันติดค้างอยู่ในไซโลในโอเดสซา เมืองท่าที่สำคัญฝั่งทะเลดำของยูเครน
ที่ผ่านมา รัสเซียปฏิเสธความรับผิดชอบต่อวิกฤตการณ์อาหารที่เลวร้ายลง โดยบอกว่าเกิดจากการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกที่ขัดขวางการส่งออกอาหารและปุ๋ยของรัสเซีย และยูเครนเองก็ได้ติดตั้งทุ่นระเบิดในน่านน้ำของตัวเอง ทำให้การส่งออกอาหารเป็นไปได้ยาก
เรียบเรียงจาก Reuters
ภาพจาก AFP
รัสเซียถล่มเมืองวินนิตเซียของยูเครน ดับ 23 ราย เจ็บนับร้อย
จับตาท่าทีไบเดน-มกุฎราชกุมาร ระหว่างทริปเยือนซาอุฯ