สหรัฐฯ-ยุโรปครองสถิติบริโภค “ช็อกโกแลต” สูงสุดในโลก

เชื่อว่า “ช็อกโกแลต” ถือเป็นของโปรดของใครหลายคน แต่ดูจะไม่ใช่กับคนในเอเชีย เพราะแม้คุณอาจจะรู้สึกว่าในแต่ละวันแต่ละปีคุณรับประทานช็อกโกแลตไปเยอะมาก ก็อาจไม่มากเท่าประเทศในฝั่งยุโรปและสหรัฐฯ ที่ยังคงครองสถิติแชมป์บริโภคช็อกโกแลตมากที่สุดในโลก

ข้อมูลจาก Statista ระบุว่า การบริโภคช็อกโกแลตทั่วโลกมีปริมาณมหาศาล และในแต่ละประเทศก็มีอัตราการบริโภคเฉลี่ยต่อคนเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการล็อกดาวน์ในช่วงปี 2020-2021

ออสเตรเลียเจอช็อกโกแลตอายุ 120 ปี

เบลเยียมจัดเทศกาลประติมากรรมช็อกโกแลต

“ช็อกโกแลต” อาจหมดไปจากโลกภายใน 30 ปี เพราะโลกร้อน

อย่างไรก็ตาม ผู้คนจำนวนมากในเอเชียยังคงชอบขนมหวานชนิดอื่นมากกว่าช็อกโกแลต ซึ่งคาดว่าอาจเกิดจากวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อาหารของชาติเอเชียที่มีของหวานเป็นส่วนประกอบมายาวนาน ทำให้มีมีความเป็นออริจินัลและถูกปากมากกว่า

จากข้อมูลในปี 2021 พบว่า สวิตเซอร์แลนด์ยังคงครองอันดับ 1 ชาติที่บริโภคช็อกโกแลตมากที่สุดในโลก โดยตัวเลขการบริโภคช็อกโกแลตต่อคนต่อปีเฉลี่ยสูงถึง 11.6 กิโลกรัม

สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศแรก ๆ ที่เริ่มการผลิตช็อกโกแลตในระดับอุตสาหกรรม โดย ฟรังซัวส์ หลุยส์ คาลยีร์ ได้เปิดโรงงานช็อกโกแลตแห่งแรกในประเทศในปี 1819 ช่วงกลางยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุโรป

สวิตเซอร์แลนด์ “รันวงการ” มาเรื่อย ๆ จนเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะหนึ่งในผู้นำด้านอุตสาหกรรมช็อกโกแลต โดยปัจจุบันมี Toblerone และ Lindt เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด

อีกหนึ่งประเทศที่ยอดการบริโภคช็อกโกแลตเพิ่มสูงขึ้นคือ สหรัฐฯ โดยในปี 2017 ชาวอเมริกันบริโภคช็อกโกแลตเฉลี่ยต่อคนต่อปีอยู่ที่ 4.4 กโลกรัมเท่านั้น แต่ในช่วงปีแรกของโควิด-19 ที่มีการล็อกดาวน์ ผลปรากฏว่าชาวอเมริกันบริโภคช็อกโกแลตเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็นถึง 10.8 กิโลกรัม

หลังผ่านช่วงที่ทุกคนได้อยู่แต่บ้าน ค่าเฉลี่ยการบริโภคช็อกโกแลตของชาวอเมริกันก็ลดลงมาเหลือ 9.0 กิโลกรัมต่อคนต่อปีในปี 2021

ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านของสวิตเซอร์แลนด์อย่างเยอรมนีนั้น การบริโภคช็อกโกแลตก็อยู่ในอันดับต้น ๆ เช่นกัน โดยอยู่ที่ 5.7 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ลดลงมาจากในปี 2017 ซึ่งอยู่ที่ 7.9 กิโลกรัมต่อคนต่อปี

ส่วนประเทศอื่นในยุโรป อย่างเช่น ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร มีการบริโภคช็อกโกแลตในอัตราที่ลดหลั่นกันมา อยู่ที่ 3.6 และ 3.0 กิโลกรัมต่อคนต่อปีตามลำดับ

แต่เมื่อมาดูกันที่ประเทศในภูมิภาคเอเชีย พบว่า ในปี 2021 อินเดียมีการบริโภคช็อกโกแลตที่ต่ำกว่ามาก คือ 1.0 กิโลกรัมต่อคนต่อปีเท่านั้น และจีนยิ่งน้อยลงไปกว่านั้น เพราะมีอัตราการบริโภคเพียง 0.2 กิโลกรัมต่อคนต่อปี หรือแม้แต่ญี่ปุ่นเอง ข้อมูลปี 2017 ระบุว่า บริโภคช็อกโกแลตเฉลี่ยเพียง 1.2 กิโลกรัมต่อคนต่อปีเท่านั้น

ตัวเลขนี้สะท้อนว่า ชนชาติในเอเชียนิยมการบริโภคของหวานอื่น ๆ มากกว่าช็อกโกแลต โดยเคยมีการประเมินจากข้อมูลปีก่อน ๆ ว่า ใน 20 อันดับประเทศที่มีการบริโภคช็อกโกแลต จะมีประเทศจากเอเชียเพียง 3-4 ประเทศเท่านั้น

นอกจากนี้ การบริโภคช็อกโกแลตมักกระจุกอยู่ในกลุ่ม “ประเทศพัฒนาแล้ว” มากกว่าประเทศในกลุ่มอื่น เนื่องจากกำลังซื้อของประชากรในประเทศกลุ่มนี้มีสูงกว่า ทำให้เข้าถึงช็อกโกแลต (ซึ่งก็ไม่ใช่สินค้าที่มีราคาถูกนัก) ได้ง่ายกว่า

สำหรับข้อดีของการบริโภคช็อกโกแลตนั้น มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ว่า ผู้ที่บริโภคช็อกโกแลตอย่างพอเหมาะ จะมีอายุยืนยาวกว่าผู้ที่ไม่รับประทานช็อกโกแลต โดยการทานช็อกโกแลต 2-3 ชิ้นต่อเดือนอาจทำให้คุณมีสุขภาพดีขึ้น

ช็อกโกแลตยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุบางชนิด เช่น แมกนีเซียมและธาตุเหล็ก รวมถึงเป็นแหล่งพลังงานระยะสั้น ที่แม้แต่ทหารในสนามรบก็ยังต้องพึ่งพา และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระและฟีนอล สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งหรือโรคหัวใจได้

อย่างไรก็ตาม การบริโภคช็อกโกแลตมากเกินพอดีอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ เพราะอาจทำให้น้ำหนักเกินและอาจส่งผลให้เกิดโรคเบาหวานได้ นักวิจัยบางคนยังพบว่า กรดสเตียริกที่พบในช็อกโกแลตอาจทำให้เลือดอุดตันได้

นอกจากนี้ การบริโภคช็อกโกแลตมากเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะเสพติดช็อกโกแลต (Chocoholic) เนื่องจากมีข้อมูลเบื้องต้นว่า ช็อกโกแลตสามารถกระตุ้นสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับการติดยาได้ด้วย

ชมสด! หน้าจอ “พีพีทีวี” 3 รอบสำคัญ “มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022” 3 รอบสำคัญ “ชุดว่ายน้ำ – พรีลิมฯ –...

ลิงก์ดูบอลสด พรีซีซั่น ! ลิเวอร์พูล พบ คริสตัล พาเลซ 15 ก.ค. 65

เรียบเรียงจาก Statista

ภาพจาก AFP