กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า ในเดือนหน้า ตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค. ถึง 5 ก.ย. รัสเซียมีแผนจะจัดซ้อมรบเชิงกลยุทธ์ครั้งใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศ ภายใต้ชื่อปฏิบัติการ “Vostok (ตะวันออก)” ห่างจากสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ในยูเครนหลายกิโลเมตร
การฝึกซ้อมจะเกิดขึ้นในพื้นที่เขตทหารตะวันออก ซึ่งรวมถึงส่วนหนึ่งของไซบีเรีย และมีศูนย์ใหญ่อยู่ที่คาบารอฟสก์ ใกล้ชายแดนจีน จะมีทั้งหน่วยของกองกำลังทางอากาศ เครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกล และเครื่องบินขนส่งสินค้าทางทหาร เข้าร่วมการซ้อมรบ
ตัดสัมพันธ์ตะวันตก รัสเซียเตรียมถอนตัวจากสถานีอวกาศนานาชาติ ISS
หลายชาติยุโรปเห็นชอบข้อตกลง ยอมลดใช้ก๊าซธรรมชาติ 15%
รัสเซียรับมอบ “เรือดำน้ำยาวที่สุดในโลก” รองรับตอร์ปิโดนิวเคลียร์
ในการซ้อมรบครั้งนี้รัสเซียจะรวมกองกำลังต่างชาติบางส่วนด้วย แต่ไม่ได้ระบุว่าประเทศใดบ้าง
นักวิเคราะห์ประเมินว่า ความเคลื่อนไหวนี้ของรัสเซียเพื่อพยายามส่งข้อความไปยังทั้งโลกว่า แม้รัสเซียจะดำเนิน “ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน” มานานต่อเนื่อง 5 เดือนแล้ว แต่ยังคงมีความสามารถในการป้องกันอาณาเขตของตนและระดับความสามารถในทางทหารยังคงอยู่ในระดับ “ปกติ”
ในแถลงการณ์ กลาโหมรัสเซียเน้นว่า การซ้อมรบที่กำลังจะมีขึ้นนี้ ไม่ได้รับผลกระทบจากปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนเลย โดยระบุว่า ที่ผ่านมา รัสเซียไม่ได้ยกเลิกกิจกรรมการฝึกหรือความร่วมมือระหว่างประเทศใด ๆ และการฝึกซ้อมครั้งนี้จะมีบุคลากร อาวุธ และอุปกรณ์ที่จำเป็นทั้งหมดโดยไม่ขาดแคลนอะไร
“เราขอดึงความสนใจของคุณมายังความจริงที่ว่า มีเพียงส่วนหนึ่งของกองกำลังของสหพันธรัฐรัสเซียเท่านั้นที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการพิเศษทางทหารพิเศษในยูเครน ซึ่งเพียงพอแล้วสำหรับภารกิจทั้งหมดที่กำหนดไว้” แถลงการณ์ระบุ
กลาโหมกล่าวว่า จำนวนทหารที่ปฏิบัติการอยู่ในยูเครนนั้น “เพียงพอสำหรับการปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ” แต่ไม่ได้ระบุจำนวนตัวเลขทหารที่ส่งไปชัด ๆ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ (CIA) กล่าวว่า ตั้งแต่เดือน ก.พ. มีทหารรัสเซียอย่างน้อยประมาณ 15,000 นายถูกสังหารในยูเครน มากที่สุดเท่าที่กองทัพโซเวียตเคยสูญเสียนับตั้งแต่สงครามในอัฟกานิสถานตั้งแต่ปี 1979
เรียบเรียงจาก Al Jazeera
ภาพจาก AFP
สหรัฐต่อยอด “หมากฝรั่งลดโควิด-19” ลดเชื้อสายพันธุ์ “โอมิครอน” ได้ด้วย
แจ็กเก็ต “บัซซ์ อัลดริน” ใส่ขึ้นอะพอลโล 11 ทุบสถิติประมูล 103 ล้านบาท