ระหว่างการกล่าวเปิดการประชุมประเทศผู้ลงนามในสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯเมื่อวานนี้ นาย อันโตนิโอ กูร์เตียร์เรซ เลขาธิการสหประชาชาติ ระบุว่าการตัดสินใจที่ผิดพลาดแม้เพียงครั้งเดียวในขณะนี้ ก็สามารถนำไปสู่หายนะจากนิวเคลียร์ได้ และโอกาสที่จะเกิดสงครามนิวเคลียร์ในปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงเวลาที่ตึงเครียดที่สุดของยุคสงครามเย็น
ลำแรกใน 5 เดือน เรือขนส่งธัญพืชออกจากท่าเรือยูเครนแล้ว
เมียนมาประหารชีวิต อดีต ส.ส.-นักเคลื่อนไหวทางการเมืองแล้ว
โดย กูเตียรร์เรซ เรียกร้องทุกประเทศร่วมมือกันทำให้โลกปลอดจากอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะไม่ทำให้มีการใช้อาวุธชนิดนี้ได้
ส่วนประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียที่แม้ไม่ได้เข้าร่วมการประขุม แต่ได้ส่งหนังสือแสดงจุดยืนไม่เหนด้วยต่อการใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดย ปูติน ย้ำว่าสงครามนิวเคลียร์จะเป็นสงครามที่ไม่มีผู้ชนะ และไม่ควรเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม สหรัฐ อังกฤษ และฝรั่งเศส ได้ออกแถลงการ์ร่วมกันเรียกร้องรัฐบาลรัสเซียหยุดใช้คำพูดและแสดงพฤติกรรมอันตรายที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้อาวุธนิวเคลียร์
นอกจากนี้ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้รัสเซียและจีน เข้าร่วมโต๊ะเจรจาการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ โดย ไบเดน ย้ำว่าสหรัฐฯ พร้อมเจรจาข้อตกลงควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ฉบับใหม่กับรัสเซียแทนที่สนธิสัญญาลดอาวุธนิวเคลียร์ฉบับปัจจุบันที่จะหมดอายุลงในปี 2026 นี้
ขณะที่ แอนโทนี่ บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่าวประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องให้มีการรื้อฟื้นข้อตกลงควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่าน และ าติมหาอำนาจ รวมทั้งสหประชาชาติ
โดยบลิงเคนแสดงความมั่นใจว่าการนำข้อตกลงนี้กลับมาบังคับใช้อีกครั้งจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมโลก พร้อมทั้งย้ำว่าสงครามนิวเคลียร์ต้องไม่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ บลิงเคน ยังแสดงความกังวลถึงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ซึ่งบลิงเคน เชื่อว่าอาจยิงทดสอบขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ครั้งที่ 7 ของปีนี้ในช่วงเวลาเดียวกับการประชุมชาติสมาชิกสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์
ขณะที่ นายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ ผู้นำญี่ปุ่นเรียกร้องประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ปฏิบัติตนด้วยความรับผิดชอบในการบรรลุเป้าหมายไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์เพราะในขณะนี้หนทางที่จะทำให้โลกปลอดจากอาวุธนิวเคลียร์มีความบยากลำบากมากขึ้นกว่าเดิม
สำหรับสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ เป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการกระจายของอาวุธนิวเคลียร์และเทคโนโลยีอาวุธ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในทางสันติ และเพื่อผลักดันเป้าหมายการบรรลุการลดอาวุธนิวเคลียร์และการลดกำลังรบโดยทั่วไปและสมบูรณ์
การลงนามเกิดขึ้นปี 1968 มีผลใช้บังคับในปี 1970 ปัจจบันมี 191 รัฐเข้าร่วมสนธิสัญญาฯ โดยประเทศสมาชิกสหปประชาชาติที่ไม่ได้เข้าร่วมหรือถอนตัวจากสนธิสัญญานี้แล้ว มีทั้งเกาหลีเหนือ อินเดีย อิสราเอล ปากีสถานและเซาท์ซูดาน