รายงานใหม่พบ อาวุธรัสเซียต้องพึ่งพาชิ้นส่วนจากชาติตะวันตก

สถาบันรอยัลยูไนเต็ดเซอร์วิส (RUSI) ศูนย์วิจัยด้านการทหารและความมั่นคงของสหราชอาณาจักร เผยผลการศึกษาใหม่ว่า “อาวุธของรัสเซียต้องพึ่งพาส่วนประกอบต่าง ๆ จากชาติตะวันตก”

รายงานฉบับใหม่นี้ระบุว่า จากการตรวจสอบอาวุธของรัสเซียที่เก็บกู้มาได้ในยูเครน พบว่าอาวุธเหล่านั้นมีส่วนประกอบที่ผลิตในต่างประเทศรวมแล้วมากกว่า 450 ชิ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัสเซียได้รับเทคโนโลยีที่สำคัญจากบริษัทต่าง ๆ ในสหรัฐฯ ยุโรป และเอเชียในช่วงหลายปีก่อนการรุกรานยูเครน

FBI บุกค้นรีสอร์ต “โดนัลด์ ทรัมป์” หาเอกสารที่หายไปจากทำเนียบขาว

หวั่นเกิดหายนะนิวเคลียร์ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียถูกโจมตีอีกครั้ง

รัสเซียจับกุมนักวิจัยขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก ในข้อหากบฏต่อแผ่นดิน

โดยกองทัพยูเครนได้ถอดประกอบระบบอาวุธของรัสเซีย 27 ระบบ ตั้งแต่ขีปนาวุธร่อนไปจนถึงระบบการป้องกันทางอากาศ และพบว่า ระบบอาวุธเหล่านี้พึ่งพาชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบตะวันตกเป็นหลัก

RUSI พบว่า ส่วนประกอบที่พบ มีอยู่ประมาณ 2 ใน 3 ที่ผลิตโดยบริษัทในสหรัฐฯ โดยอิงจากอาวุธที่กู้คืนมาจากยูเครน และส่วนประกอบที่ผลิตโดย Analog Devices และ Texas Instruments ในสหรัฐฯ มีสัดส่วนเกือบ 1 ใน 4 ของส่วนประกอบชาติตะวันตกทั้งหมดที่พบในอาวุธรัสเซีย

ส่วนประกอบอื่น ๆ มาจากบริษัทในประเทศอื่น ๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร

แจ็ก วัตลิง ผู้เชี่ยวชาญด้านสงครามทางบกที่ RUSI กล่าวว่า “อาวุธของรัสเซียที่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของตะวันตกอย่างมาก ได้ทำให้ชาวยูเครนเสียชีวิตหลายพันคน”

RUSI บอกว่า แม้ว่าส่วนประกอบจากตะวันตกที่ใช้ในอาวุธของรัสเซียส่วนมากจะเป็นส่วนประกอบที่พบได้ในของใช้ในชีวิตประจำวันเช่นกัน เช่น ไมโครเวฟ ทำให้ไม่อยู่ภายใต้ประเภทสินค้าที่ถูกควบคุมการส่งออก แต่ RUSI มองว่า หากเข้มข้อจำกัดในการส่งออกและการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับส่วนประกอบเหล่านี้ อาจทำให้รัสเซียเพิ่มจำนวนอาวุธ เช่น ขีปนาวุธร่อน ได้ยากขึ้น

ตัวอย่างเช่น ขีปนาวุธร่อน 9M727 ของรัสเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในอาวุธที่ล้ำหน้าที่สุดของประเทศที่สามารถเคลื่อนตัวในระดับความสูงต่ำเพื่อหลบเลี่ยงเรดาร์และโจมตีเป้าหมายที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตรได้ มีส่วนประกอบจากต่างประเทศ 31 ชิ้น หรือขีปนาวุธร่อน Kh-101 ของรัสเซีย ซึ่งเคยใช้โจมตีเมืองต่าง ๆ ของยูเครน รวมทั้งเมืองหลวงเคียฟ ก็มีส่วนประกอบจากต่างประเทศ 31 ชิ้นเช่นกัน

บริษัทต่าง ๆ กล่าวว่า พวกเขาปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตรทางการค้าและได้หยุดขายส่วนประกอบที่อาจถูกนำไปใช้กับอาวุธให้รัสเซียแล้ว แต่มีความเป็นไปได้ว่า รัสเซียได้ซื้อส่วนประกอบเหล่านี้ไว้ตั้งแต่ช่วงก่อนสงคราม

ภายหลังการรุกรานยูเครน สหรัฐฯ ได้ประกาศคว่ำบาตรรัสเซียอย่างหนัก เพื่อพยายามทำให้เศรษฐกิจและกองทัพของรัสเซียอ่อนแอลง รวมถึงการห้ามขายไมโครชิปให้กับรัสเซีย ประเทศต่าง ๆ ในยุโรป ญี่ปุ่น ไต้หวัน และเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตชิปหลักทั้งหมด ได้ประกาศข้อจำกัดที่คล้ายคลึงกัน เพราะชิปถือเป็นส่วนประกอบสำคัฐในการพัฒนาอาวุธที่มีความทันสมัยหรือมีความแม่นยำสูง

RUSI รายงานเพิ่มเติมว่า รัสเซียกำลังพยายามหาเส้นทางใหม่ในการเข้าถึงไมโครชิปของตะวันตก โดยพบว่า ส่วนประกอบอาวุธหลายอย่างจำหน่ายผ่านผู้จัดจำหน่ายที่ดำเนินงานในเอเชีย เช่น ฮ่องกง ซึ่งทำหน้าที่เป็นประตูให้กองทัพรัสเซียสามารถเข้าถึงชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้

RUSI รายงานว่า จากบันทึกภาษีศุลกากรของรัสเซียแสดงให้เห็นว่า ในเดือน มี.ค. ปีที่แล้ว บริษัทหนึ่งนำเข้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิตโดย Texas Instruments มูลค่า 600,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 21 ล้านบาท) ผ่านผู้จัดจำหน่ายในฮ่องกงรายหนึ่ง และ 7 เดือนต่อมา บริษัทเดียวกันนี้ได้นำเข้าชิ้นส่วนไมโครอิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิตโดย Xilinx มูลค่ากว่า 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 39 ล้านบาท)

RUSI ประเมินว่า กองทัพรัสเซียอาจอ่อนแอลงอย่างถาวร หากรัฐบาลตะวันตกควบคุมการส่งออกเข้มงวดมากยิ่งขึ้น จัดการปิดเครือข่ายการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นความลับของประเทศ และป้องกันไม่ให้มีการผลิตชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบที่ละเอียดอ่อนในประเศหรือรัฐที่สนับสนุนรัสเซีย

 

เรียบเรียงจาก Reuters

ภาพจาก AFP

ฝนถล่มกรุงโซลน้ำท่วมสูงเสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย

โรงไฟฟ้าซาโปริซเซียถูกโจมตี หวั่นเกิดหายนะนิวเคลียร์