เวลานี้ปัญหาการค้ามนุษย์ได้ลุกลามไปหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะ "กัมพูชา" ซึ่งมีการเติบโตของแหล่งคาสิโนอย่างต่อเนื่อง ตรงนี้ส่งผลให้เกิดวิกฤตการค้ามนุษย์ในคาสิโนกัมพูชารุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาก็มีภาพเหตุการณ์ที่น่าตกใจคือ คนงานต่างชาติหลายสิบคนที่ทำงานในคาสิโนแห่งหนึ่งของกัมพูชาวิ่งหนีออกมา และกระโดดลงแม่น้ำหวังว่ายน้ำหนีกลับประเทศของตนเอง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้พบคนงาน ซึ่งเป็นวัยรุ่นที่อายุเพียงแค่ 16 ปีเสียชีวิตจากการถูกน้ำพัด
“โกตาบายา ราชปักษา” ออกจากไทยกลับไปยังศรีลังกาแล้ว
“เหยียบดวงจันทร์ในรอบ 50 ปี” ศึกชิงความเป็นมหาอำนาจครั้งใหม่
วิเคราะห์บอล !! พรีเมียร์ลีก แมนยู พบ อาร์เซน่อล 4 ก.ย.65
ภาพเหตุการณ์สุดชุลมุนเกิดขึ้นที่ โกเดน ฟินิส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คาสิโน (Golden Phoenix Entertainment Casino) ซึ่งเป็นคาสิโนที่ตั้งอยู่ในจังหวัดกันดาล ทางตอนใต้ของกัมพูชาเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา รายงานข่าวระบุว่า ภาพที่เห็นอยู่นี้เป็นคนงานชาวเวียดนามราว 40 คน กำลังต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้านหน้าคาสิโน และวิ่งฝ่าด่านเจ้าหน้าที่ไปยังแม่น้ำ จากนั้นคนกลุ่มนี้ก็กระโดดลงแม่น้ำเพื่อหวังจะว่ายน้ำกลับไปยังเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศบ้านเกิดของพวกเขา
จากเหตุการณ์ดังกล่าวพบวัยรุ่นชายอายุ 16 ปีเสียชีวิตจากถูกกระแสน้ำพัดระหว่างว่ายน้ำหนี มีวัยรุ่นชายอีกคนหนึ่งถูกเจ้าของคาสิโนจับตัวไป และมีรายงานว่าผู้รอดชีวิตบางคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และมีคนอื่นๆถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปสอบปากคำ
รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา ระบุว่า คนงานเหล่านี้อาจเป็นแรงงานที่ผิดกฎหมาย โดยพวกเขาได้รับคำมั่นสัญญาว่าจะได้เงินเดือน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ตามที่สัญญาไว้ เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายระบุว่า ช่วงเวลาที่ทำงานที่คาสิโนแห่งนี้ตลอด 4 เดือนก็ถูกโกง และรู้สึกเหมือนตกนรกทั้งเป็น เพราะถูกบังคับให้ทำงาน 14 ชั่วโมงต่อวัน และเวลาหลบหนี ก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคาสิโนแห่งนี้ใช้กระบองและแท่งเหล็กตีเพื่อทำร้ายร่างกายอย่างโหดร้าย ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าวตำรวจได้จับกุมตัวชาวจีน ซึ่งผู้จัดการของคาสิโนแห่งนี้้เพื่อนำตัวมาสอบสวนแล้ว
นับตั้งแต่ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2022 ทางการเวียดนามและกัมพูชาได้ช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ที่แหล่งคาสิโนของกัมพูชาได้ 250 คน และคนชาติอื่น ๆ อีกจำนวนมาก ขณะที่ทางการกัมพูชาได้เปิดด่านตรวจคนเข้าเมืองเข้มงวดทั่วประเทศเพื่อปราบปรามเครือข่ายค้ามนุษย์ หลังมีรายงานว่า มีแรงงานจากประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถูกหลอกให้เดินทางมายังกัมพูชาเพื่อหางานที่มีรายได้มหาศาล
เจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้อยู่เบื้องหลังการค้ามนุษย์ในกัมพูชาคือองค์กรอาชญากรรมของจีน ซึ่งมีเป้าหมายหลอกลวงเหยื่อที่มาจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย มาเลเซีย ไต้หวัน อินโดนีเซีย และเวียดนาม
พันเอก คง หง็อก โออัน (Khong Ngoc Oanh) หัวหน้าฝ่ายป้องกันการค้ามนุษย์ของกระทรวงความปลอดภัยสาธารณะของกัมพูชา ระบุว่า มีผู้คนหลายพันคนถูกหลอกเดินทางเข้ามายังกัมพูชา โดยแก๊งค้ามนุษย์ให้คำมั่นสัญญาว่าจะให้ทำงานง่าย ๆ ได้ค่าแรงสูง แต่ปรากฎว่าพอมาถึงจริงๆแล้วพวกเขาถูกนำตัวไปที่โรงงาน และคาสิโน รวมถึงถูกจับเป็นเชลย
ทั้งนี้ หลังจากเหยื่อตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าของคาสิโนก็จะถูกเอารัดเอาเปรียบ และพวกเขาจะสามารถกลับบ้านได้ก็ต่อเมื่อจ่ายค่าไถ่สูงถึง 30,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 1 ล้าน 1 แสนบาทให้กับแก๊งค้ามนุษย์
ขณะเดียวกัน สื่อเวียดนามได้รายงานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า พบ 4 ครอบครัวในจังหวัดไฮฟอง (Hai Phong) เมืองท่าสำคัญทางตอนเหนือของเวียดนามต้องจ่ายเงินหลายพันดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อไถ่ตัวลูกๆของพวกเขาจากแก๊งค้ามนุษย์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากลูกของพวกเขาถูกเพื่อนหลอกลวงไปทำงานในกัมพูชา
สื่อท้องถิ่นกัมพูชา ซึ่งรายงานเกี่ยวกับการค้ามนุษย์เป็นที่สื่อแรก ๆ จนทำให้สายตาทั่วโลกหันมาจับจ้องกัมพูชาก็ได้พูดถึงปัญหาการค้ามนุษย์ในกัมพูชาเช่นเดียวกัน โดยรายงานแรก Khmer Times เป็นรายงานเกี่ยวกับบริษัทจีนที่กักขังคนงานใน "สีหนุวิลล์"
โดย "สีหนุวิลล์" ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจแห่งใหม่ของกัมพูชา ตั้งแต่ปี 2016 - 2018 ที่นั่นก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ อสังหาริมทรัพย์เฟื่องฟู และเป็นเมืองแห่งความบันเทิงที่ครบวงจร ทำให้กลายเป็นที่นิยมในบรรดานักลงทุนชาวจีน และคนงานหลั่งไหลเดินทางเข้ามาจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ภายใต้หน้ากากของศูนย์กลางทางเศรษฐกิจแห่งใหม่นี้ กลับกลายเป็นสถานที่ที่ต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนเข้ามาใช้เป็นฐานก่ออาชญากรรม และหลายปีที่ผ่านมามีรายงานข่าวการปราบปรามหรือช่วยเหลือเหยื่อหลายเชื้อชาติขึ้นพาดหัวข่าวอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ภาพของคนงานเวียดนามราว 40 คนที่วิ่งหนีออกมาจากคาสิโนเมื่อไม่นานมานี้ก็ถือเป็นการตอกย้ำถึงปัญหาการค้ามนุษย์ในคาสิโนกัมพูชาที่ยังรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และยังทำให้ชื่อเสียงของ "กัมพูชา" ซึ่งถูกมองว่าเป็นประเทศที่มีจุดหมายปลายทางที่มีการค้ามนุษย์รูปแบบใหม่ ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงสายตาผู้คนไปไม่ได้แล้ว
การค้ามนุษย์ในกัมพูชาที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ สหรัฐฯ ผลักกัมพูชาขึ้นบัญชีดำการค้ามนุษย์ โดย แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เสนอรายงานการค้ามนุษย์ประจำปีเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ผลปรากฎว่าสหรัฐฯ ได้ขยับ "กัมพูชา" จาก "เทียร์ 2" ลงสู่ "เทียร์ 3" ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุด หรือเรียกว่าการขึ้นบัญชีดำค้ามนุษย์กับประเทศที่ไม่จริงจังในการจัดการกิจกรรมบริการทางเพศอย่างไม่ยินยอม และการปล่อยปละละเลยให้มีการค้าแรงงานข้ามชาติอย่างผิดกฏหมาย
สหรัฐฯ อ้างว่า กัมพูชามีการทุจริตในระดับท้องถิ่น ซึ่งสิ่งนี้เป็นอุปสรรคสำคัญในการช่วยเหลือผู้คนหลายพันคน รวมถึงเด็ก ซึ่งตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ตามสถานบันเทิง ในภาคอุตสาหกรรม และการบังคับให้ทำธุรกิจต้มตุ๋นออนไลน์
ผู้อำนวยการศูนย์พันธมิตรแรงงานและสิทธิมนุษยชน ระบุว่า จากรายงานดังกล่าวอาจทำให้กัมพูชากำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่จะสูญเสียการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสหรัฐฯ และชาติตะวันตก ซึ่งหากกัมพูชาไม่หยุดยั้งสิ่งนี้อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม
ด้านรองประธานคณะกรรมการต่อต้านการค้ามนุษย์แห่งชาติของกัมพูชา ระบุว่า จริง ๆ แล้ว ปัญหาการค้ามนุษย์ไม่ควรโทษกัมพูชาแต่ฝ่ายเดียว เพราะอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับองค์กรที่ดำเนินการโดยชาวต่างชาติ ซึ่งตัวผู้ก่อเหตุก็เป็นอาชญากรในประเทศเหล่านั้นที่หลอกล่อเหยื่อในประเทศตนเองเข้ามาค้ามนุษย์ในกัมพูชา พร้อมย้ำว่ากัมพูชาไม่ใช่ประเทศเดียวที่มีปัญหานี้เกิดขึ้น
นอกจากนี้ รองประธานคณะกรรมการต่อต้านการค้ามนุษย์ ยังระบุว่า เวลานี้แม้แต่กัมพูชาเองก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมแก๊งค้ามนุษย์เหล่านี้จึงเลือกกัมพูชาเป็นฐานปฏิบัติการ แต่ก็มั่นใจว่ายังมีอีกหลายประเทศที่เผชิญชะตากรรมเดียวกันกับกัมพูชา พร้อมขอให้ประเทศต่างๆให้ความรู้กับประชาชนของตนเองเพื่อไม่ให้เป็นเหยื่อของคนกลุ่มนี้ด้วย
ล่าสุดสหรัฐฯ ได้เข้ามาช่วยเหลือกัมพูชา และภาคส่วนต่าง ๆ ในการสอบสวน และต่อสู้กับการค้ามนุษย์ ซึ่งผลจะเป็นอย่างไรก็ต้องติดตามกันต่อไป