สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนเดิมทีก็ส่งผลเสียต่อทั้งโลกอยู่แล้ว โดยเฉพาะในแง่ของการส่งออกอาหาร เพราะทั้งรัสเซียและยูเครนต่างก็เป็นผู้ผลิตสินค้าอาหารและการเกษตรรายใหญ่ของโลกด้วยกันทั้งคู่ แต่คำสั่งล่าสุดในการระดมกำลังพลสำรองของปูติน ดูเหมือนกำลังจะทำให้สถานการณ์อาหารในประเทศตัวเองย่ำแย่ลง
โดยเมื่อวานนี้ (27 ก.ย.) ปูตินออกมาเปิดเผยว่า “กลุ่มชาวนาเกษตรกร” เป็นหนึ่งในชาวรัสเซียที่ถูกเกณฑ์ทหารไปเสริมทัพปฏิบัติการพิเศษในยูเครน ทำให้เกิดความเสี่ยงว่าจะกระทบการผลิตพืชผลในปี 2023
ผลประชามติไม่พลิกโผ! 4 ภูมิภาคยูเครนเห็นชอบผนวกเข้ารัสเซีย
ชายรัสเซียกลัวตายในสนามรบ-บางส่วนพร้อมพลีชีพเพื่อชาติ
ไม่อยากเป็นทหาร! ชายรัสเซียก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่เกณฑ์ทหารระยะเผาขน
รัสเซียเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดของโลก และในช่วงฤดูใบไม้ร่วงอย่างนี้ (ก.ย.-พ.ย.) เป็นฤดูที่สำคัญของเกษตรกร เนื่องจากเป็นช่วงที่ต้องหว่านข้าวสาลีฤดูหนาวสำหรับเก็บเกี่ยวในปีหน้า และเป็นหน้าเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองและเมล็ดทานตะวันด้วย
ยังไม่มีข้อมูลคาดการณ์ชัดเจนว่า การเณฑ์เกษตรกรไปเป็นทหารในครั้งนี้ จะส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตสินค้าอาหารและการเกษตรมากน้อยเพียงใด
“ผมยังต้องการกล่าวกับหัวหน้าส่วนภูมิภาคและหัวหน้าวิสาหกิจการเกษตร ในการระดมกำลังบางส่วนนั้น แรงงานการเกษตรก็กำลังถูกเกณฑ์ทหารเช่นกัน ดังนั้นครอบครัวของพวกเขาต้องได้รับการสนับสนุน ผมขอให้คุณให้ความสนใจเป็นพิเศษกับปัญหานี้” ปูตินกล่าว
ปูตินประกาศระดมกำลังพลสำรองครั้งใหญ่ 300,000 นายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจุดชนวนความไม่พอใจของประชาชนในประเทศ เกิดการประท้วงต่อต้านการเกณฑ์ทหารในหลายเมือง และมีแม้กระทั่งเหตุยิงสัสดี หรือเหตุจุดไฟเผาตัวเอง เพื่อแสดงเจตจำนงว่าจะไม่ไปรบในยูเครน
ขณะเดียวกัน พลเรือนชายรัสเซียจำนวนหนึ่งในแห่เดินทางออกนอกประเทศ เพื่อหลบเลี่ยงการระดมพล โดยบางส่วนเดินทางผ่านด่านชายแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ฟินแลนด์ จอร์เจีย ขณะที่บางส่วนซื้อตั๋วเที่ยวเดียวไปยังประเทศใกล้เคียง อาทิ ตุรกี อาเซอร์ไบจาน จนตั๋วเหล่านี้ขายหมดในเวลาอันรวดเร็วและราคาพุ่งสูงขึ้นมาก
ในวันเดียวกันกับที่ปูตินพูดถึงเรื่องการเกณฑ์เกษตรกรไปรบ โฆษกทำเนียบขาว คารีน ฌอง-ปิแอร์ ก็ได้ออกมาบอกว่า สหรัฐฯ ยินดีต้อนรับชาวรัสเซียที่ต้องการลี้ภัยจากสงครามและนโยบายระดมกำลังพลสำรองของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน
“เราเชื่อว่าไม่ว่าจะมีสัญชาติใด พวกเขาอาจยื่นขอลี้ภัยในสหรัฐฯ ได้ และเราจะพิจารณารับเรื่องของพวกเขาเป็นกรณี ๆ ไป” เธอกล่าว
เรียบเรียงจาก Reuters / Reuters
ภาพจาก AFP