โอเปกพลัส หั่นกำลังผลิตครั้งใหญ่รอบ 2 ปี 2 ล้านบาร์เรล

โดย PPTV Online

เผยแพร่

กลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) มีมติลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีกวันละ 2 ล้านบาร์เรล โดยพยายามรักษาระดับราคาน้ำมัน หลังร่วงลงหนักจากความวิตกเศรษฐกิจโลกถดถอย

เมื่อวานนี้ (5 ต.ค.) สมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน โอเปก พร้อมด้วยรัสเซีย และประเทศผู้ผลิตน้ำมันอื่นๆ ได้ตกลงที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีกวันละ 2 ล้านบาร์เรล เป็นการปรับลดครั้งเดียวมากที่สุดตั้งแต่ปี 2020  ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันที่ผลิตต่อวันลดลงจาก 43.8 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 41.8 ล้านบาร์เรล และจะมีผลตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป 

ซาอุดีอาระเบีย ชาติแกนนำกลุ่มโอเปกระบุว่า การปรับลดกำลังการผลิตวันละ 2 ล้านบาเรลล์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 2 % ของกำลังการผลิตน้ำมันทั่วโลก 

ไอเดียเจ๋ง! มูลนิธิกระจกเงา ปลุกเสก "พระสติ" ที่ทำมาจากขยะพลาสติก ช่วยลดโลกร้อน

ซาอุฯ เตรียมเนรมิตหิมะจัดเอเชียนเกมส์ ฤดูหนาว 2029

ราคาน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนการประชุมโอเปกพลัส

การปรับลดกำลังการผลิตถือเป็นเรื่องจำเป็นในการรับมือกับผลกระทบจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของหลายประเทศในชาติตะวันตก และความกังวลด้านเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลง  ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันดิบลดลงจาก 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเหลือ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
 
ขณะที่ซาอุดีอาระเบียได้ปฏิเสธคำวิจารณ์ของชาติตะวันตกที่กล่าวหาว่า ซาอุดีอาระเบียกำลังร่วมมือกับรัสเซีย ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มโอเปกพลัส ในการผลักดันราคาน้ำมันให้ทะยานสูงขึ้น

ทั้งนี้ การปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัส ยังถูกมองว่า เป็นการเมินในความพยายามของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ที่เพิ่งเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียในเดือนกรกฎาคม เพื่อโน้มน้าวให้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลกยอมคงระดับการผลิตของตัวเองต่อไป

เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว และ ไบรอัน ดีส ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ ระบุในแถลงการณ์ร่วมว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน รู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจของกลุ่มโอเปกพลัสในการปรับลดโควต้าการผลิต ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังคงต้องเผชิญกับผลกระทบด้านลบจากการที่รัสเซียส่งทหารรุกรานยูเครน 

ทั้งนี้ ทำเนียบขาว ระบุอีกว่า การรักษาไว้ ซึ่งอุปทานพลังงานโลกมีความสำคัญอย่างมาก และการตัดสินใจของกลุ่มโอเปกพลัสในครั้งนี้ จะส่งผลกระทบด้านลบต่อประเทศรายได้ปานกลาง และรายได้ต่ำ ที่กำลังเผชิญกับปัญหาราคาพลังงานพุ่งสูง 

นอกจากนี้ ทำเนียบขาวยังเปิดเผยว่า ประธานาธิบดี ไบเดน อาจต้องประเมินต่อไปว่าจะต้องสั่งระบายน้ำมันสำรองในคลังยุทธศาสตร์ออกมาหรือไม่ เพื่อทำให้ราคาน้ำมันลดลง 

ขณะที่ นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งระหว่างการแถลงข่าวถูกผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกผิดหวังต่อพันธมิตรสหรัฐฯ และสมาชิกโอเปก อย่าง ซาอุดีอาระเบีย หรือไม่ 

ซึ่งบลิงเคน ไม่ได้ตอบคำถามถึงประเด็นดังกล่าว และบอกเพียงแค่ว่า สหรัฐฯ และซาอุฯ มีผลประโยชน์ร่วมกันมากมายในหลายด้าน และรัฐบาลวอชิงตันได้ชี้แจงต่อประเทศผู้ผลิตน้ำมันอย่างชัดเจน ถึงความจำเป็นในการจัดหาพลังงาน เพื่อตอบสนองความต้องการรวมถึงผลักดันกลุ่มโอเปกพลัสไม่ให้ลดกำลังผลิตลง 

หลังจากมติการปรับลดกำลังการผลิต ราคาน้ำมันโลกขยับขึ้นเป็นวันที่ 4 โดยน้ำมันดิบเบรนท์สูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ โดยปรับเพิ่มขึ้น 22 เซ็นต์ อยู่ที่ 93.59 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังพุ่งขึ้น 1.7% ระหว่างการซื้อขาย

น้ำมันดิบสหรัฐ (WTI) เพิ่มขึ้น 22 เซ็นต์ หรือ 0.3% อยู่ที่ 87.98 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.4% ระหว่างการซื้อขาย

ราคาทองวันนี้ ดีดต่อ 150 บาท สวนทางต่างประเทศเจอกดันจากดอลลาร์แข็ง

ค่าเงินบาทเปิดตลาด "แกว่งแคบ ๆ" จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐศุกร์นี้

สำหรับการปรับลดกำลังการผลิตครั้งนี้ถือเป็นการปรับลดกำลังการผลิตมากที่สุด นับตั้งแต่มีการระบาดใหญ่ของโควิด-19 เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2020

ขณะที่ราคาน้ำมันเมื่อวานนี้ (5 ต.ค.) พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ โดยสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 2.24 ดอลลาร์ ปิดที่ 87.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1.57 ดอลลาร์ ปิดที่ 93.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

สภาพอากาศวันนี้! ฝนตกหนักในภาคกลาง-ตะวันออก-ใต้ ส่วน กทม.โดนด้วย

แมนยู ไม่พร้อมปล่อย โรนัลโด้ ช่วงปีใหม่ มี 2 ปัจจัยหนุน

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ