ทางการยูเครนเปิดเผยว่า ขณะนี้ กองทัพรัสเซียบางส่วนเริ่มถอนกำลังออกจากบริเวณแม่น้ำดนิโปรในภูมิภาคเคอร์ซอน ทางตอนใต้ของยูเครน ซึ่งรัสเซียยึดไว้ได้และประกาศผนวกดินแดนเป็นส่วนหนึ่งของตน
โดย นาตาเลีย ฮูเมนุก โฆษกกองทัพยูเครน เผยว่า “พวกเขากำลังย้ายหน่วยและเจ้าหน้าที่ชั้นยอดของพวกเขาออกจากฝั่งแม่น้ำทางตะวันตก เหลือไว้แต่ทหารที่เพิ่งระดมพลมาและปล่อยทิ้งไว้ได้เท่านั้น”
เครื่องบินรบรัสเซียตกอีกครั้งในรอบไม่ถึงสัปดาห์ นักบินเสียชีวิต 2 ราย
ผู้นำยูเครน เผยรัสเซียเตรียมโจมตีเขื่อนขนาดใหญ่ในภูมิภาคเคอร์ซอน
สหรัฐฯ อ้าง อิหร่านส่งผู้เชี่ยวชาญช่วยฝึกการใช้โดรนให้กองทัพรัสเซีย
เธอเสริมว่า “เรายังคงพยายามผลักดันแนวหน้าต่อไป แต่พวกเขาก็ยังยึดพื้นที่ไว้ได้อย่างแน่นหนาหลังแนวรับเช่นกัน พวกเขากำลังพยายามรวมทัพไว้ที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำ”
ขณะที่ วลาดิสลาฟ นาซารอฟ โฆษกกองบัญชาการปฏิบัติการพื้นที่ภาคใต้ของกองทัพยูเครน รายงานตรงกันว่า กองกำลังรัสเซียส่วนใหญ่กำลังเคลื่อนย้ายไปอีกฝั่งของแม่น้ำดนิโปร โดยปล่อยให้หน่วยทหารที่เกณฑ์มาใหม่อยู่ที่เดิม”
คาดการณ์ว่า รัสเซียมีทหารอยู่ประมาณ 20,000 ในและรอบ ๆ เมืองเคอร์ซอน
ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ ประกอบกับการสั่งอพยพประชาชนในเคอร์ซอนเพื่อรับมือปฏิบัติการโต้กลับของยูเครน ทำให้มีการวิเคราะห์กันว่า หรือรัสเซียกำลังอ่อนแอลงและจะเสียเคอร์ซอนคืนให้กับยูเครน
ทั้งนี้ รัสเซียอ้างว่า ยังไม่ได้สูญเสียพื้นที่ในเคอร์ซอนให้กับยูเครนแต่อย่างใด แค่กำลังอพยพพลเรือนเพื่อความปลอดภัย และย้ายพวกเขาไปทางตะวันออก เจ้าหน้าที่รัสเซียในเคอร์ซอนยังกล่าวด้วยว่า ชายคนหนึ่งเสียชีวิตและบาดเจ็บสามคนหลังจากการระเบิด โดยกล่าวว่าอุปกรณ์ระเบิดถูกจุดชนวนใกล้กับรถคันหนึ่งในเมือง
คิริลล์ สเตรมูซอฟ รองหัวหน้าผู้บริหารภูมิภาคเคอร์ซอนที่แต่งตั้งโดยรัสเซีย กล่าวว่า “การอพยพเมืองเคอร์ซอนยังคงดำเนินต่อไป เราให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่แก่ผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังภาคตะวันออกของภูมิภาคเคอร์ซอนและภูมิภาคอื่น ๆ ของสหพันธรัฐรัสเซีย”
ผู้บริหารของเคอร์ซอนที่รัสเซียแต่งตั้งประกาศว่า ให้ประชาชน “เก็บเอกสารสำคัญ เงิน ของมีค่า และเสื้อผ้า” เนื่องจากสถานการณ์ที่ตึงเครียดในแนวแหน้า ทำให้มีประชาชนต้องการหลบหนีไปยังที่ปลอดภัยมากขึ้น
ด้านสถาบันเพื่อการศึกษาสงคราม ระบุว่า การอพยพประชาชนครั้งนี้ บ่งชี้ว่า “ผู้รุกรานไม่คาดคิดว่าจะมีประชาชนกลับเข้ามาอาศัยในเมืองอย่างรวดเร็วขนาดนี้ จึงดูเหมือนว่าพวกเขากำลังพยายามลดจำนวนประชากรของเมือง เพื่อสร้างความเสียหายทางสังคมและเศรษฐกิจในระยะยาว”
ความกังวลยังเพิ่มมากขึ้นว่า รัสเซียอาจระเบิดเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ที่ โนวา คาคอฟกา ไม่ไกลมากจากเคอร์ซอน ซึ่งกักเก็บน้ำไว้ 18 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยหน่วยข่าวกรองของยูเครนเตือนว่า เขื่อนดังกล่าวถูกติดตั้งระเบิดไว้ และมีภาพรถบรรทุก 2 คันที่เต็มไปด้วยวัตถุระเบิดอยู่บนกำแพงสูง 30 เมตรของเขื่อนด้วย
สถาบันเพื่อการศึกษาสงครามกล่าวว่า “กองกำลังรัสเซียมีแนวโน้มว่าจะเตรียมทำลายเขื่อน โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้น้ำท่วมและทำให้แม่น้ำดนิโปรกว้างขึ้นเพื่อชะลอการรุกคืบของยูเครน”
อย่างไรก้ตาม การระเบิดเขื่อนอาจเสี่ยงที่จะทำลายบ้านเรือนของผู้คนที่อาศัยอยู่ท้ายน้ำ ส่งผลกระทบต่อแหล่งพลังงาน และมีผลกระทบต่อระบบนิเวศอย่างมีนัยสำคัญ
เจ้าหน้าที่รัสเซียกล่าวว่าพวกเขากำลังดำเนินการเพื่อลดปริมาณน้ำหลังเขื่อนเพื่อลดความเสียหายให้น้อยที่สุด แต่บอกว่าพวกเขากำลังทำเช่นนี้เพราะกลัวว่ากองกำลังของยูเครนจะระเบิดเขื่อน
รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ซอร์เกย์ ชอยกู ยังกล่าวกับกลาโหมของอังกฤษ ฝรั่งเศส และตุรกี ว่า ยูเครนมีแผนจะใช้ “ระเบิดสกปรก” หรืออาวุธที่มีส่วนประกอบของวัตถุกัมมันตรังสีด้วย โดยไม่ได้แสดงหลักฐานใด ๆ
เรียบเรียงจาก CNN / The Guardian
ภาพจาก AFP