เวลาดูภาพยนตร์แนวไซไฟที่มีธีมของ “อวกาศ” หนึ่งในเทคโนโลยีที่มักถูกพูดถึงและนำมาใช้ คือเรื่องของ “เทคโนโลยีวาร์ป” หรือการเคลื่อนย้ายจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งด้วยความเร็วที่เหนือกว่าแสง
อย่างไรก็ตาม หากว่ากันตามทฤษฎีสัมพัทธภาพของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ แล้ว จะไม่มีสิ่งใดสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าแสงได้ เพราะต้องใช้พลังงานปริมาณอนันต์ (Infinite) ในการเร่งวัตถุใด ๆ ให้มีความเร็วเหนือแสง ด้วยเหตุนี้ ยานอวกาศใด ๆ ที่จะเดินทางด้วยความเร็วแสงจึงเป็นไปไม่ได้อย่างมาก
“กาแล็กซีชนกัน” ภาพสุดยอดหาชมยากจาก “เจมส์ เว็บบ์”
แต่ในปี 1944 มิเกล อัลคับเบียร์ ได้เสนอทฤษฎีหนึ่งที่เรียกว่า “การขับเคลื่อนแบบอัลคับเบียร์ (Alcubierre Drive)” ซึ่งเสนอว่า ในเมื่อวัตถุไม่สามารถเร่งความเร็วได้เท่ากับความเร็วของแสงภายในกาล-อวกาศปกติได้ เราก็ใช้วิธีการขยับเลื่อนหรือบิดพื้นที่กาล-อวกาศรอบ ๆ วัตถุ เพื่อให้วัตถุสามารถเคลื่อนที่ไปถึงจุดหมายปลายทางแทน
ตามทฤษฎีก็คือ เราจะทำให้ยานอวกาศที่กำลังเดินทางนั้นอยู่ภายใน “ฟองวาร์ป (Warp Bubble)” ที่ล้อมรอบด้วยวงแหวนมวลลบ (Negative Mass Ring) วงแหวนมวลลบจะช่วยให้กาลอวกาศหน้ายานหดตัว และยืดกาลอวกาศด้านหลังยาน ซึ่งจะทำให้ยานอวกาศเดินทางด้วยความเร็วเหนือแสงได้ โดยความเร็วของยานอวกาศที่อยู่ภายในฟองวาร์ปจะยังคงอยู่ภายใต้ขีดจำกัดปกติ
คนส่วนใหญ่คิดว่าทฤษฎีนี้มีความสมเหตุสมผล แต่ในทางปฏิบัติไม่สามารถทำได้ เพราะการขับเคลื่อนแบบอัลคับเบียร์ต้องใช้มวลและพลังงานที่มีค่าเป็นลบ (Negative Mass-Energy) ซึ่งต้องใช้สสารประหลาด (Exotic Matter) ดังนั้นถ้าสสารประหลาดที่มีคุณสมบัติที่ถูกต้องไม่มีอยู่จริง ก็จะไม่สามารถสร้างการขับเคลื่อนแบบนี้ขึ้นมาได้
ดร.ฮาโรลด์ ซันนี ไวต์ วิศวกรและนักฟิสกศ์ขององค์การนาซายังคงพยายามหาวิธีแก้ไขปัญหาเรื่องของมวล-พลังงานที่จำเป็นในการขับเคลื่อนเทคโนโลยีวาร์ป เขาเชื่อว่าการบิดเบือนทางฟิสิกส์มีความเป็นไปได้ที่จะลดความต้องการมวลพลังงานที่กล่าวถึงในทฤษฎีอัลคับเบียร์
ขณะนี้ ไวต์เป็นผู้นำทีมสร้างอุปกรณ์ที่เรียกว่า “White-Juday Warp Field Interferometer” เป็นอินเตอร์เฟอโรมิเตอร์ (เครื่องมือที่ใช้ในการตรวจจับและแยกคลื่น) แบบแยกลำแสง ซึ่งสามารถตรวจจับและสร้างฟองวาร์ปขนาดเล็กอย่างง่ายขึ้นมาได้ ซึ่งแม้จะยังไม่สามารถนำมาใช้กับงานด้านอวกาศได้จริง แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญที่วันใดวันหนึ่งอาจนำเราไปสู่เทคโนโลยีวาร์ปได้จริง ๆ
โดยสรุปแล้ว หากถามว่ามนุษย์จะสามารถพัฒนาเทคโนโลยีวาร์ปขึ้นมาได้หรือไม่นั้น ด้วยการศึกษาที่มีในปัจจุบันก็คงบอกได้เพียงว่า นี่เป็นสิ่งที่มีความเป็นไปได้ แต่ยังคงต้องรอการศึกษาและพัฒนาโดยนักวิทย์และผู้เชี่ยวชาญกันต่อไป
หากอิงจากภาพยนตร์ดังอย่าง Star Trek ในภาพยนตร์ไซไฟเรื่องนี้ เทคโนโลยีวาร์ปถูกสร้างขึ้นในปี 2063 ก็เป็นที่น่าสนใจว่า ในอีก 40 ปีข้างหน้า สิ่งที่มีอยู่แค่ในนวนิยายและภาพยนตร์นี้ จะสามารถเกิดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริงได้หรือไม่
เรียบเรียงจาก The Brighter Side
ภาพจาก Shutterstock