ทางการท้องถิ่นเมืองเซี่ยงไฮ้ประกาศเมื่อวานนี้ว่า ตั้งแต่วันนี้ (วันจันทร์) เป็นต้นไป ประชาชนพื้นที่จะไม่ต้องแสดงผลตรวจการติดเชื้อที่เป็นลบภายใน 48 ชั่วโมงก่อนจะเข้าใช้บริการขนส่งสาธารณะและเข้าร่วมกิจกรรมภายนอกอาคาร เช่น สวนต่าง ๆ และจุดท่องเที่ยวทั้งหลายแล้ว นอกจากนั้น ทางการปักกิ่งยังเพิ่งประกาศยกเลิกให้ประชาชนต้องใช้ชื่อจริงในการลงทะเบียนหากมีการซื้อยาแก้หวัด-ลดไข้ด้วย
สภาพอากาศวันนี้! ใต้ฝนตกหนักถึงหนักมาก เหนืออุณภูมิลดลงอีก กทม.เจอฝนเล็กน้อย
"ภูเขาไฟเซเมรู" ปะทุ อินโดนีเซียประกาศเตือนภัยระดับสูงสุด
ก่อนหน้านี้ ทางการเซี่ยงไฮ้สั่งกักตัวประชากรที่มีจำนวนกว่า 23 ล้านคนมาเป็นเวลาหลายเดือนในปีนี้ ทำให้เกิดแรงกดดันอย่างหนักต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในท้องถิ่น
การผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของเซี่ยงไฮ้นี้เกิดขึ้น หลังทางการในหลายเมืองเช่น กรุงปักกิ่ง เมืองเทียนจิน เมืองเสิ่นเจิ้น และเมืองเฉิงตู ยกเลิกคำสั่งบังคับให้ประชาชนต้องแสดงผลตรวจการหาเชื้อก่อนใช้ระบบขนส่งสาธารณะในเมืองเมื่อวันเสาร์
ส่วนที่เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ซึ่งเป็นเมืองแรกๆ ที่ยอมผ่อนคลายมาตรการควบคุมไวสรัสโควิด-19 หลักเกิดเหตุประท้วงและความวุ่นวายนที่โรงงานผลิตไอโฟน บรรยากาศการใช้ชีวิตของประชาชนเริ่มเป็นปกติ โดยโรงภาพยนต์ต่างๆได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งภายใต้กฎระเบียบด้านการป้องกันโรคที่ยังคงเข้มงวด
โรงภาพยนต์ที่เปิดให้บริการต้องพ่นยาฆ่าเชื้อโรคเป็นประจำทุกวันและจำกัดผู้เข้าชมรอบละไม่เกิน 50 เปอร์เซนต์ ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด ส่วนผู้เข้าชมต้องแสดงผลตวรจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นลบในระยะเวลา 48 ชั่วโมง และต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
เช่นเดียวกับที่เมืองกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง ที่โรงภาพยนต์กว่า 130 แห่งที่กลับมาเปิดให้บริการช่วงสุดสัปดาห์ทีผ่านมาเช่นกัน โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่เหมือนกับมาตรการของเมืองเจิ้งโจว โดยโรงภาพยนต์ในเมืองกว่างโจวจะต้องจำกัดผู้เข้าชมไว้ที่ไม่เกิน 75 เปอร์เซนต์ของจำนวนที่นั่งในแต่ละรอบ และ ต้องพ่นยาฆ่าเชื้อทุกครั้งที่ฉายภาพยนต์เสร็จสิ้นแล้ว
สำหรับคำสั่งผ่อนคลายข้อจำกัดบางส่วนในหลายเมืองของจีนเชื่อว่าเป็นการลดแรงกดดันจากความไม่พอใจของประชาชนที่มองว่า มาตรการควบคุมและกักตัวเฝ้าระวังอาการป่วยที่ดำเนินมาหลายปีนี้ใช้เวลานานเกินไปจนทำให้เกิดการประท้วงใหญ่ในหลายเมืองเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว
โดยตลอดหลายวันที่ผ่านมา หน่วยงานด้านสาธารณสุขของรัฐบาลจีนได้เปิดเผยรายการมาตรการต่าง ๆ ที่มีจุดประสงค์เพื่อ “เพิ่มประสิทธิภาพสู่ระดับสูงสุด” สำหรับการดำเนินนโยบายโควิดเป็นศูนย์ และเพื่อลดผลกระทบของการระบาดต่อเศรษฐกิจและสังคม แต่การดำเนินการจริงโดยทางการท้องถิ่นนั้นออกมาแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่
ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ สอดคล้องกับท่าทีของ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่เกิดขึ้นขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี ระหว่างการพบปะพูดคุยกับนาย ชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป ที่เดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง โดยผู้นำจีน ระบุว่าสายพันธุ์โอมิครอนมีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา ทำให้รัฐบาลจีนรู้สึกสบายใจมากขึ้นที่จะเปิดกว้างต่อการพิจารณาการผ่อนคลายนโยบายที่เป็นข้อจำกัดต่างๆ
เช่นเดียวกับ นาง ซุน ชุ่นหลาน รองนายกรัฐมนตรีหญิงของจีนที่ระบุเมื่อวันพฤหัสบดีเช่นกันว่าไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนมีความรุนแรง น้อยลงเรื่อยๆ อีกทั้งอัตราการฉีดวัคซีนก็เพิ่มขึ้น และประชาชนได้สั่งสมประสบการณ์ในการควบคุมและป้องกันโรคมาพอสมควร มาตรการควบคุมโรคระบาดของจีนจึงจะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนและภารกิจใหม่
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่าแม้จะเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆแล้วบางส่วน รัฐบาลจีนจะยังไม่เปิดประเทศก่อนเดือน มี.ค. ปีหน้า เนื่องจากยังต้องดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ให้กับประชากรสูงอายุที่มีเป็นจำนวนมาก