จีนเลิกใช้แอปฯ ติดตามเดินทางพื้นที่เสี่ยงสูงพรุ่งนี้

ทางการจีนเผยผ่านบัญชีวีแชต (WeChat) ว่า ตั้งแต่เที่ยงคืนวันอังคาร (13 ธ.ค.) จะยกเลิกแอปพลิเคชันติดตามการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงสูงจากสัญญาณโทรศัพท์ หลังใช้มานานกว่า 2 ปี

แอปฯ ดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญในนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีน ซึ่งกำหนดให้ผู้ใช้ต้องใส่หมายเลขโทรศัพท์ของตัวเอง เพื่อยืนยันสถานะตัวเองว่าได้ไปในพื้นที่เสี่ยงสูงในช่วงเวลา 14 วันที่ผ่านมาหรือไม่ ก่อนเดินทางข้ามมณฑล หรือเข้าร่วมงานต่างๆ

จีนยกเลิกมาตรการคุมเข้มโควิด หลังเกิดการประท้วงใหญ่ทั่วประเทศ

ผลสำรวจชี้ชาวจีนยังไม่คิดเดินทาง ตปท.เร็วๆ นี้ แม้คลายมาตรการโควิด

"ฮ่องกง" ทยอยผ่อนคลายล็อกดาวน์ โควิดเพิ่มเติม

การตัดสินใจนี้มีขึ้นไม่กี่วันหลังจากที่จีนได้ประกาศยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์วงกว้าง และมาตรการบังคับกักตัวในศูนย์กักตัวของส่วนกลาง รวมถึงผ่อนคลายข้อกำหนดเกี่ยวกับการตรวจหาเชื้อหลายประการ

ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของจีนที่ทางการรายงานลดลงอย่างมากจากที่เคยทำสถิติสูงสุดเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ของวันอาทิตย์ (11 ธ.ค.) อยู่ที่ 8,838 คน

อย่างไรก็ตาม นายแพทย์จงหนานซาน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจ เตือนผ่านสื่อทางการจีนเมื่อวานนี้ว่า เชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยที่ระบาดอยู่ในประเทศขณะนี้สามารถแพร่ติดต่อได้รวดเร็ว และอาจทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นได้ โดยผู้ติดเชื้อ 1 คน สามารถแพร่เชื้อต่อไปได้อีก 22 คน และไม่ว่าจะป้องกันหรือควบคุมเข้มงวดแค่ไหน ก็เป็นเรื่องยากที่จะตัดวงจรการระบาดได้โดยสิ้นเชิง

ทั้งนี้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการระบบทางเดินหายใจส่วนบน ได้แก่ ไอ เจ็บคอ และไข้ และน้อยมากที่จะพบอาการปวดบวม โดยผู้ป่วย 99 เปอร์เซ็นต์จะหายดีภายในเวลา 1 สัปดาห์

ข้อมูลที่เผยแพร่โดยนายแพทย์สู่ เหวินปอ ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันและควบคุมโรคไวรัสศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน ระบุว่า เชื้อสายพันธุ์โอมิครอนที่กำลังระบาดในจีนขณะนี้เป็นสายพันธุ์ย่อย BA.5.2 และ BF.7 โดย BA.5.2 พบการระบาดใน 31 มณฑล ขณะที่ BF.7 พบการระบาดใน 24 มณฑล

อย่างไรก็ตาม นายต่ง เจ้าฮุย ผู้อำนวยการสถาบันโรคทางเดินหายใจปักกิ่ง ระบุว่า ความสามารถที่จะทําให้เกิดโรคของเชื้อสายพันธุ์ย่อยนี้ไม่แตกต่างกัน โดยเขาเชื่อว่าประชาชนไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเกินไป

กระนั้น ชาวจีนในกรุงปักกิ่งจำนวนมากยังคงต่อแถวที่คลินิกและร้านขายยา เพื่อซื้อยาแก้หวัดแก้ไข้ และชุดตรวจโควิดตุนเอาไว้ โดยส่วนใหญ่บอกว่า สนับสนุนการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาด แต่ก็ยังต้องระมัดระวังตัวท่ามกลางตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น

ภาพจาก AFP