ปูติน เยือนเบลารุส หวังสานสัมพันธ์ทางทหาร พร้อมยกระดับความร่วมมือทุกด้าน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์  ปูติน พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เซอร์เก ชอยกู และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เซอร์เก ลาฟรอฟ เดินทางถึงกรุงมินสก์ เมืองหลวงของเบลารุส เมื่อวานนี้ โดยได้หารือกับ ประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ผู้นำเบราลุส พันธมิตรคนสำคัญที่สนับสนุนการตัดสินใจบุกยูเครนของรัสเซีย โดยประธานาธิบดี ปูติน ย้ำว่ารัสเซียไม่ต้องการกลืนประเทศใด รวมทั้งเบลารุส 

ผลโพลออกมาแล้ว! เห็นควรให้ อีลอน มัสก์ ลาออกจากตำแหน่งซีอีโอทวิตเตอร์

สภาสหรัฐฯ เสนอให้ดำเนินคดีอาญา 4 ข้อหาหนัก กับโดนัลด์ ทรัมป์

แต่ยืนยันว่าทั้งสองประเทศจะยกระดับความร่วมมือระหว่างกันในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านการป้องกันประเทศ ที่จะมีการร่วมการผลิตและส่งมอบอาวุธ รวมทั้งออกมาตรการต่างๆร่วมกันฝนกิจการความมั่นคง  

นอกจากนี้รัสเซียจะฝึกอบรมมทหารเบลารุส ในการขับเครื่องบินรบยุคสภาพโซเวียตที่มีสมรรถนะทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ สำหรับ เบลารุสเคยอนุญาตให้รัฐบาลรัสเซียใช้ดินแดนของตนเป็นฐานเปิดการโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ แต่ไม่ได้เข้าร่วมสงครามโดยตรง นอกจากนั้นลูคาเชนโกยังย้ำว่า ไม่มีเป้าหมายส่งทหารเข้าไปในยูเครน

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยูเครน เชื่อว่าเบลารุสอาจยอมให้รัสเซียใช้ดินแดนเพื่อเปิดการโจมตียูเครนอีก ขณะที่สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซียรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมรัสเซียว่า กองทหารรัสเซียที่เคลื่อนเข้าสู่เบลารุสเมื่อเดือนตุลาคม จะฝึกกองพันโจมตีทางยุทธวิธี แต่ไม่มีรายละเอียดว่า จะเริ่มการฝึกเมื่อใด

นอกจากความร่วมมือทางทหารกับเบลารุสแล้ว ในวันที่ 21-27 ธ.ค.นี้ กองทัพเรือรัสเซียจะจัดการซ้อมรบร่วมกับกองทัพเรือจีน ซึ่งขจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2012 โดยจะมีทั้งการทดสอบยิงขีปนาวุธและ ปืนใหญ่ในพื้นที่ทะเลจีนตะวันออก 

โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่าการซ้อมรบทางทะเลดังกล่าว เป็นการเพิ่มความร่วมมือด้านกองทัพเรือของรัสเซียและจีน รวมทั้งรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ส่วน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ริชี ซูนัค ผู้นำสหราชอาณาจักรได้เดินทางเยือนกรุงริกา  ประเทศลัตเวีย เพื่อหารือกับผู้นำเนเธอร์เเลนด์ รวมถึงกลุ่มประเทศเเถบนอร์ดิกและบอลติก  คือ เดนมาร์ก เอสโตเนีย ฟินเเลนด์ ไอซ์แลนด์  ลิทัวเนีย เนเธอร์เเลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน 

 

 

โดย ซูนัค ได้เรียกร้องให้ผู้นำประเทศที่ร่วมหารือสนับสนุนยูเครนในปีหน้า ในระดับเทียบเท่าหรือมากกว่าปีนี้ ซึ่งในปี 2023 ที่จะมาถึงนี้ ซูนัค สัญญาว่ารัฐบาลสหราชอาณาจักรจะมอบความช่วยเหลือให้แก่ยูเครนมากว่า 2,300 ล้านปอนด์ หรือ ประมาณ 1 แสนล้านบาท 

ส่วนที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพลังงานประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู เมื่อวานนี้ได้มีมติจำกัดราคาเพดานก๊าซธรรมชาติไว้ที่ 180 ยูโร หรือประมาณ 6,000 บาท ต่อ 1 เมกะวัตต์ชั่วโมง โดยจะมีผลตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่จะถึงนี้ไปจนตลอดปี 2023 การกำหนดเพดานราคาก๊าซที่ซื้อขายในตลาดอียูมีจุดประสงค์เพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคาพลังงานที่ถีบตัวสูงขึ้นหลังรัสเซียส่งกำลังทหารบุกยูเครน  

อย่างไรก็ตามวิธีการกำหนดเพดานราคานี้อาจระงับใช้เมื่อใดก็ได้ หากการบังคับใช้ก่อให้ผลเสียมากกว่าผลดี ซึ่งก่อนหน้านี้ รัสเซียในฐานนะผู้ค้าก๊าซธรรมรายใหญ่ให้กับยุโรปขู่จะปิดท่อส่งเพื่มเติม หากมีการใช้วิธีดังกล่าว