ซึ่งคาดว่ารถถังชุดแรกที่จะเดินทางมาถึงยูเครนในเดือนหน้าจะมีไม่ต่ำกว่า 100 คัน
ส่วนฝั่งรัสเซียเองก็มีสัญญาณออกมาว่าจะจับมือกับอิหร่านพัฒนาโดรนเพื่อสู้กับทางยูเครน อย่างไรดี นอกจากประเด็นสงครามในสนามรบแล้ว ทางฝั่งยูเครนดูเหมือนจะต้องรับมือกับศึกภายในรัฐบาลด้วย หลังจากที่มีรายงานการโยกย้ายตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับสูง โดยเฉพาะตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีความสำคัญมากในภาวะสงคราม
สหรัฐฯจ่อทุ่มงบ 2.5 พันล้านดอลลาร์ให้ยูเครน ส่งรถหุ้มเกราะ Stryker ช่วยรบ
IMF เตือน 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยปีนี้
วันนี้ 6 ก.พ. สำนักข่าวอัลจาซีรา (Al Jazeera) รายงานโดยอ้างข้อมูลจากเดวิด อราคาเมีย แกนนำพรรครัฐบาลของยูเครนว่า โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เตรียมโยกย้ายโอเล็กซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนปัจจุบันให้ไปดำรงตำแหน่งอื่น
โดยคนที่จะมาดำรงตำแหน่งแทนโอเล็กซีคือ คิรีโล บูดานอฟ หัวหน้าสำนักงานหน่วยข่าวกรองของยูเครน ซึ่ง แกนนำพรรครัฐบาลให้เหตุผลในการสับเปลี่ยนตัวว่า สถานการณ์สงครามที่ดำเนินอยู่ตอนนี้ ต้องการการจัดการบุคลากรด้านข่าวกรองและความมั่นคงโดยตรงมากกว่าที่จะเป็นนักการเมือง
ทั้งนี้ ทางประธานาธิบดีเซเลนสกี ยังไม่ได้ให้ข้อมูลหรือออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับประเด็นนี้
อย่างไรก็ดี หลายฝ่ายมองว่า การโยกย้ายโอเล็กซี เรซนิคอฟ ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม เป็นผลมาจากการปราบปรามการคอร์รัปชันภายในรัฐบาลยูเครนเอง
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงกลางเดือนถึงปลายเดือนม.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานต่อต้านการทุจริตแห่งชาติยูเครน (NABU) ได้ตรวจสอบการทุจริตที่เกิดขึ้นในภายในรัฐบาลท่ามกลางสงครามที่กำลังดำเนินไปอย่างดุเดือด
ผลจากการตรวจสอบพบว่า มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหลายตำแหน่งในหลายกระทรวง มีส่วนรู้เห็นและทุจริตงบประมาณ รวมถึง "วยาเชสลาฟ ชาโปวาลอฟ" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครนด้วย
โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา สำนักข่าวเคียฟอินดิเพนเดนท์รายงานว่า ศาลยูเครนได้เข้าจับกุมอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครนและตั้งวงเงินประกันตัวไว้สูงถึง 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 369 ล้านบาท
การจับกุมครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่สำนักงานสอบสวนแห่งรัฐ (DBR) ตั้งข้อสงสัยว่าอดีตรัฐมนตรีช่วยกลาโหมรายนี้ พยายามวิ่งเต้นเพื่อทำสัญญาซื้ออาหารให้กับกองทัพยูเครนในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด
นอกจากนี้ ตามรายงานเขายังถูกตั้งข้อสงสัยว่าทุจริตการจัดซื้อเสื้อเกราะกันสุน หมวก รวมถึงเสื้อผ้าที่มีคุณภาพต่ำสำหรับความต้องการทางทหาร ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 1 พันล้านฮริฟเนียยูเครน หรือราว 911 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี สื่อหลายสำนักระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ชี้แจงกับคณะกรรมการสอบสวนการทุจริตว่า รายงานเกี่ยวกับการคอร์รัปชันในกระทรวงเป็น “ข้อผิดพลาดทางเทคนิค” และเงินงบประมาณยังคงอยู่เท่าเดิม
ขณะที่เมื่อวานนี้ โอเล็กซี เรซนิคอฟ ได้ออกมาให้ความเห็นเรื่องการโยกย้ายตำแหน่งเช่นกัน
โดยเขาระบุว่า ประธานาธิบดียูเครนมีสิทธิ์ปรับเปลี่ยนโยกย้ายเจ้าหน้าที่ได้ตามสิทธิ์ในรัฐธรรมนูญ และตัวเขาไม่รู้สึกผิดอะไรกับเรื่องนี้ เนื่องจากไม่ได้ทำผิดอะไร
นอกจากนี้ เขายังอธิบายกระบวนการตรวจสอบการทุจริตว่า ตอนนี้ทางกระทรวงได้ให้นักบัญชีเริ่มตรวจสอบบัญชีงบประมาณภายในแล้ว และคาดว่าจะรู้ผลในอีกหนึ่งสัปดาห์หลังจากนี้
การเปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่และการปราบปรามการทุจริต ที่เกิดขึ้นท่ามกลางสงครามที่กำลังดำเนินไปอย่างดุเดือด เป็นผลส่วนหนึ่งมาจากการที่รัฐบาลยูเครนต้องการจัดการปัญหาฉุดรั้งประเทศท่ามกลางสงคราม และเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนผ่านเพื่อเข้าเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป
โดยหนึ่งในเงื่อนไขที่สำคัญของการเป็นสมาชิกอียูคือ ประเทศผู้สมัครต้องมีความโปร่งใสและตรวจสอบได้
นี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้รัฐบาลยูเครนต้องรีบจัดการปัญหาภายในครั้งใหญ่ เนื่องจาก ผู้นำยูเครนได้ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ยูเครนจะเริ่มกระบวนการเจรจาเพื่อทำการภาคยานุวัติเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปแบบเต็มตัวภายในปีนี้
อย่างไรก็ดี แผนการภาคยานุวัติของยูเครนถือว่าเร็วกว่าเวลาค่าเฉลี่ยที่ชาติสมาชิกยุโรปอื่น ๆ ที่ใช้ในการเปลี่ยนผ่านอยู่ที่ราว ๆ 4 ปี ทำให้ทางการยูเครนต้องเตรียมการทุกอย่างให้สมบูรณ์ ไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น จนเป็นการเปิดช่องให้ชาติที่ไม่ต้องการให้ยูเครนเป็นสมาชิก สามารถคัดค้านการภาคยานุวัติได้
สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้สะท้อนให้เห็นว่า ทางฝั่งยูเครนต้องรับศึกจากทั้งภายในและภายนอก
สำหรับศึกภายนอก ตอนนี้มีสัญญาณว่าทางรัสเซียกำลังเตรียมเปิดศึกกับยูเครนเต็มอัตราในวันครบ 1 ปีของสงครามในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
โดยเมื่อวานนี้ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนได้แถลงรายงานสถานการณ์ประจำวันว่า ตอนนี้กองทัพรัสเซียกำลังเตรียมการบางอย่างเพื่อล้างแค้น และเป็นสัญลักษณ์ในวาระครบรอบ 1 ปีของสงครามในยูเครน
ด้านโอเล็กซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมยูเครนเปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะรุกคืบครั้งใหญ่ในเดือนนี้ แต่การรุกคืบจะเป็นการทำในเชิงสัญลักษณ์มากกว่า เนื่องจากทรัพยากรบางอย่างของรัสเซียไม่มีความพร้อมใช้งาน
นอกจากนี้ เขาระบุว่าทางยูเครนพร้อมที่รับมือและขับไล่กองทัพรัสเซียออกจากยูเครน แม้ว่าอาวุธของชาติตะวันตกบางชิ้นจะยังเดินทางมาไม่ถึงสนามรบก็ตาม
ขณะที่ทหารแนวหน้าในแคว้นโดเนตสก์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างดุเดือดที่สุดในตอนนี้เปิดเผยว่า พวกเขารู้สึกมีความสุขมากที่ได้ยินว่าจะได้รถถังใหม่จากชาติตะวันตก เนื่องจากสามารถบังคับและยิงได้อย่างแม่นยำ ตลอดจนปลอดภัยกว่ารถถังรุ่น T-64 ที่ใช้อยู่
ล่าสุดวันนี้มีข่าวดีสำหรับฝั่งยูเครนออกมา เมื่อแอนิตา อานันด์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมแคนาดา ได้โพสต์ภาพในทวิตระบุว่า รถถังเลพเพิร์ด 2 ที่แคนาดาบริจาคให้แก่ยูเครนเดินทางถึงประเทศโปแลนด์แล้ว
โดยรถถังเลพเพิร์ด 2 ที่เดินทางถึงโปแลนด์ในรอบนี้ เป็นส่วนหนึ่งในชุดความช่วยเหลือที่แคนาดาส่งมอบให้แก่ยูเครนผ่านทางเครื่องบิน ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และรถถังเหล่านี้จะถูกนำไปให้ทหารยูเครนใช้ฝึกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
นอกจากเรื่องรถถังแล้ว อีกหนึ่งอาวุธที่ยูเครนอาจได้รับคือระบบเตือนภัยทางอากาศ
เมื่อวานนี้ สำนักข่าวเคียฟอินดิเพนเดนท์รายงานว่า รัฐมนตรีกลาโหมยูเครนเปิดเผยว่าทางการอิสราเอลสัญญากับยูเครนว่าจะส่งระบบเตือนภัยขีปนาวุธและโดรนให้แก่ยูเครน โดยไม่ได้ระบุข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงวันส่งมอบที่ชัดเจน
ในขณะที่ฝั่งยูเครนกำลังเตรียมพร้อมเพื่อสู้ในสงครามหลังจบฤดูหนาว ทางฝั่งรัสเซียเองก็มีการวางแผนการสู้รบในระยะยาวไว้เช่นกัน โดยสื่อตะวันตกและยูเครนรายงานว่า รัสเซียมีแผนที่จะสร้างโรงงานผลิตโดรนอิหร่านในประเทศ
เมื่อวานนี้ สำนักข่าวเคียฟอินดิเพนเดนท์รายงานโดยอ้างสำนักข่าวเดอะวอลสตรีทเจอร์นอล (The Wall Street Journal) ว่า รัฐบาลรัสเซียและรัฐบาลอิหร่านมีแผนที่จะสร้างโรงงานผลิตโดรนสัญชาติอิหร่านในรัสเซีย ซึ่งคาดว่าจะผลิตโดรนได้มากกว่า 6,000 ลำ
ตามรายงานระบุว่า คณะผู้แทนของอิหร่านได้เดินทางไปยังรัสเซียเพื่อเยี่ยมชมไซต์ก่อสร้างของโรงงานและตกลงรายละเอียดต่าง ๆ ตั้งแต่เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา
นี่อาจเป็นประเด็นที่หลายให้ความสนใจ เพราะหากรัสเซียผลิตโดรนได้เอง โดรนเหล่านั้นจะกลายเป็นความท้าทายใหม่ในสนามรบของยูเครน เนื่องจากยูเครนยังไม่มีระบบป้องกันภัยทางอากาศที่มีประสิทธิมากพอที่จะสกัดโดรนได้ทุกพื้นที่