หลังจากที่ได้รถถังหลักแล้ว ยูเครนยังได้ขอเครื่องบินรบจากชาติตะวันตกเพิ่มเติม เพื่อจัดทัพใหม่เตรียมขับไล่รัสเซียออกจากพื้นที่ต่างๆ ของยูเครน
อย่างไรก็ดี ชาติตะวันตกหลายชาติยืนยันว่าจะไม่ส่งเครื่องบินรบให้ยูเครน เนื่องจากกังวลว่าจะทำให้รัสเซียไม่พอใจและสงครามลุกลามบานปลาย
แต่ก็ยังมีบางประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร ที่บอกเป็นนัยๆ ว่ายังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะส่งเครื่องบินรบไปให้ยูเครน ทำให้วันนี้ประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนตัดสินใจเดินทางไปเยือนสหราชอาณาจักรเพื่อพูดคุยเรื่องนี้
รัสเซีย ไม่พอใจเยอรมนี ส่ง"รถถังเลพเพิร์ด 2" ให้ยูเครน
รมต.กลาโหมเยอรมนี สั่งเร่งผลิตรถถังช่วยยูเครน
เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาตามเวลาบ้านเรา ( 8 ก.พ.) ประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครน เดินทางไปถึงท่าอากาศยานลอนดอนสแตนสเต็ดของสหราชอาณาจักร
การเดินทางครั้งนี้เป็นการไปเยือนแบบไม่ได้แจ้งกำหนดการล่วงหน้าและถือเป็นการเดินทางออกนอกประเทศเป็นครั้งที่ 2 ของปธน.เซเลนสกี นับตั้งแต่รัสเซียเข้ารุกรานยูเครน หลังจากก่อนหน้านี้ไปเยือนสหรัฐฯ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
หลังจากนั้น ผู้นำยูเครนได้เข้าพบกับริชี สุนัค นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรที่บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิง ที่พักของนายกรัฐมนตรี ก่อนที่ทั้งคู่จะเข้าไปหารือร่วมกัน
ข้อมูลจากรัฐสภาสหราชอาณาจักรเปิดเผยว่า หลังจากนี้ ผู้นำยูเครนจะไปกล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าสมาชิกรัฐสภาก่อนจะเข้าพบกับพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ที่พระราชวังบักกิงแฮมในกรุงลอนดอน
หลังจากนั้นจะเดินทางต่อเพื่อไปเยี่ยมบรรดาทหารยูเครนที่ฝึกซ้อมรบอยู่ในฐานทัพของสหราชอาณาจักร
หลายฝ่ายให้ความเห็นว่า ประเด็นหลักที่จะถูกอภิปรายในการเดินทางไปเยือนรอบนี้คือการขอให้สหราชอาณาจักรส่งเครื่องบินรบให้ยูเครน
สาเหตุที่หลายฝ่ายคาดการณ์เช่นนี้เป็นเพราะวันนี้รัฐบาลสหราชอาณาจักรเปิดเผยว่า กองทัพจะเริ่มฝึกนักบินยูเครนให้ใช้เครื่องบินรบรุ่นมาตรฐานของนาโต
รัฐบาลสหราชอาณาจักรให้เหตุผลในการฝึกครั้งนี้ว่า เป็นไปเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักบินยูเครน หากต้องใช้เครื่องบินรบมาตรฐานนาโตเพื่อปกป้องน่านฟ้าของตนเองในอนาคต
ท่าทีเช่นนี้ของสหราชอาณาจักรสอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของเบน วอลเลซ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่ระบุว่า ทางสหราชยังไม่ตัดความเป็นไปได้ในการส่งเครื่องบินรบให้แก่ยูเครนออกไป และสหราชอาณาจักรจะพิจารณาเรื่องการส่งเครื่องบินให้ยูเครนตามเวลาและความเหมาะสม
การไปเยือนสหราชอาณาจักรของผู้นำยูเครน เกิดขึ้นในเวลาที่ไล่เลี่ยกับการที่มีสัญญาณออกมาว่ารัฐบาลสหราชอาณาจักรอาจต้องให้ความช่วยเหลือยูเครนมากขึ้น
หลังจาก จอห์น ฮิลลี รัฐมนตรีเงากระทรวงกลาโหม ออกมาระบุว่า พรรคแรงงานต้องการเห็นแผนการช่วยเหลือยูเครนอย่างเป็นรูปธรรมในร่างงบประมาณประจำปีนี้ เพื่อให้ยูเครนมั่นใจได้ว่าสหราชอาณาจักรจะไม่ทอดทิ้งยูเครน
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. บอริส พิสโตริอุส รัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนี ได้เดินทางไปเยือนกรุงเคียฟแบบไม่มีการแจ้งกำหนดการล่วงหน้า ก่อนจะเข้าหารือร่วมกับประธานาธิบดี รัฐมนตรีกลาโหม และรัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน
หลังจากการหารือเสร็จสิ้น รัฐมนตรีกลาโหมของเยอรมนีและยูเครนได้แถลงข่าวร่วมกัน
โดยบอริสประกาศว่า เยอรมนี เดนมาร์ก และเนเธอร์แลนด์ ยินดีมอบรถถังหลักเลพเพิร์ด 1 A5 ที่มีอยู่ในคลังอย่างน้อย 100 คันให้แก่ยูเครน
โดยคาดว่า 25 คันแรกจะถูกส่งไปถึงยูเครนในช่วงฤดูร้อนหรือประมาณกลางปีนี้ ส่วนช่วงปลายปีคาดว่าจะส่งได้ 80 คัน และในช่วงเดือนมกราคมปี 2024 จะส่งเพิ่มได้อีกราว ๆ 100 คัน
หลังจากนั้น โอเล็กซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมยูเครน ก็ได้ทวิตรูปภาพของเขากับรัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนี และโมเดลรถถังเลพเพิร์ด 2 พร้อมข้อความเชิงหยอกล้อว่า รถถังเลพเพิร์ด 2 คันแรกเดินทางถึงกรุงเคียฟแล้ว และหลังจากนี้จะมีอีกหลายคันตามมา
เลพเพิร์ด 1 เป็นรถถังหลักที่ถูกออกแบบโดยปอร์เช่ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์หรูและผลิตโดยบริษัทเคราส์-มัฟไฟ ในเยอรมนีตะวันตก ตอนช่วงกลางทศวรรษ 1950 ถึงต้นทศวรรษ 1960 และถูกนำมาประจำการครั้งแรกในปี 1965
ตัวรถทำจากเกราะเหล็กรีดเนื้อเดียวชนิด 10-70 มิลลิเมตร ติดอาวุธหลักปืนใหญ่ลำกล้องเกลียว 105 มิลลิเมตร รุ่นรอยัลออร์เนินซ์ แอล 7 (Royal Ordnance L7) ซึ่งเป็นหนึ่งในปืนรถถังที่ประสิทธิภาพดีที่สุดในยุคสงครามเย็น
สาเหตุที่เยอรมนีและชาติตะวันตกอื่นๆ ส่งรถถังเลพเพิร์ด 1 ให้ยูเครน เป็นเพราะกองทัพชาติตะวันตกโดยเฉพาะเยอรมนีไม่ได้ใช้รถถังรุ่นนี้แล้ว และมีประจำการอยู่ในคลังเป็นจำนวนมากคาดการณ์ว่าชาติตะวันตกอาจมีรถถังรุ่นนี้ในคลังรวมกันไม่ต่ำกว่า 300 คัน
นอกจากเยอรมนีแล้ว สเปนก็เป็นอีกหนึ่งชาติที่ส่งยุทโธปกรณ์บางส่วนไปยังยูเครนกระทรวงกลาโหมสเปนรายงานว่าได้จัดส่งรถสายพานลำเลียงพล M113 จำนวน 20 คัน จากท่าเรือบิลเบาทางตอนเหนือของประเทศ ไปยังยูเครน
มาร์การิตา โรเบิลส์ รัฐมนตรีกลาโหมสเปนเผยว่า สเปนมีแผนที่จะส่งรถถังเลพเพิร์ด 2 A4 จำนวน 4-6 คันให้แก่ยูเครน และคาดว่าจะเริ่มส่งได้เร็วที่สุดคือช่วงสิ้นเดือนนี้หรือช่วงต้นเดือนหน้า
นี่ทำให้หลายฝ่ายประเมินว่า ยูเครนอาจมีรถถังทุกรุ่นตั้งแต่เลพเพิร์ด 1-2 ชาเลนเจอร์ 2 รวมไปถึงเอ็มวัน เอบรามส์ ที่พร้อมใช้ในสนามรบในเดือนหน้า อย่างน้อยที่สุดคือ 50 คันและมากที่สุดคือ 150 คัน
ซึ่งจำนวนดังกล่าวถือว่าเพียงพอต่อการสกัดแผนการรุกคืบใหญ่ของรัสเซีย ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์หลังจากนี้
จะเห็นได้ว่าตอนนี้บรรดาชาติตะวันตกเริ่มอัดฉีดเงินและส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ให้ยูเครนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ยูเครนสามารถรับมือกับการบุกครั้งใหญ่ของรัสเซียที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครบรอบ 1 ปี หรือหลังฤดูหนาวสิ้นสุดลงได้
อย่างไรก็ดี การระดมความช่วยเหลือของชาติตะวันตกสร้างกำลังความไม่พอใจอย่างหนักให้กับรัสเซีย
เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ได้พูดขณะที่ประชุมกับเจ้าหน้าที่ทางการทหารระดับสูงว่า การส่งอาวุธของชาติตะวันตกอาจนำไปสู่การยกระดับความขัดแย้งที่ไม่สามารถคาดเดาได้
ขณะเดียวกัน เขาได้ชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมการประชุมว่า ปฏิบัติการทางการทหารของรัสเซียรอบ ๆ เมืองวูเกลดาร์และบัคมุตมีความคืบหน้า และฝั่งยูเครนสูญเสียทหารไปจำนวนมาก
อย่างไรก็ดี ยูเครนยืนยันว่ายังตรึงกำลังในพื้นที่รอบเมืองบัคมุตไว้ได้ โดยทหารที่อยู่ในแนวหน้าของสนามรบเปิดเผยว่า กองทัพรัสเซียไม่มีรถถังหนักเพื่อเข้ามารบในแนวหน้า มีเพียงแค่ยานยนต์หุ้มเกราะที่จะกลายเป็นเป้าหมายให้ยูเครนโจมตี