ภาพจากกรุงปารีสเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หวัง อี้ นักการทูตจีนพบปะกับ แคทเธอรีน โคโลนนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของฝรั่งเศส การพบกันครั้งนี้เกิดขึ้นหลังหวัง อี้ เข้าพบกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส
การเยือนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเยือนหลายประเทศในยุโรป เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี ฮังการี และเยอรมนี เพื่อกระชับความสัมพันธ์ หลังที่ผ่านมาสงครามยูเครนทำให้จีนรู้สึกว่าตนห่างเหินกับบรรดาชาติตะวันตก
สหรัฐฯ พบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์-เซ็นเซอร์ จากบอลลูนสอดแนมจีน
"จีน" ค้าน "ฟิลิปปินส์" ให้สหรัฐฯ ใช้ฐานทัพเพิ่ม
นอกจากนั้นหวัง อี้ จะเข้าร่วมการประชุมเพื่อความมั่นคงในนครมิวนิก ของเยอรมนีในวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์ด้วย ซึ่งในงานนี้หลายฝ่ายคาดกันว่า หวัง อี้ อาจได้พบปะพูดคุยกับ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ
ท่าทีของทั้งสองฝ่ายเป็นที่จับตา เนื่องจากในเวลานี้สหรัฐฯ และจีนกำลังมีข้อขัดแย้งเกี่ยวกับบอลลูนสอดแนมที่เพิ่งถูกยิงตกไปในรัฐเซาท์แคโลไรนาเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามฝ่ายสหรัฐฯ ยังไม่ยืนยันว่าบลิงเคนจะไปร่วมประชุมหรือไม่
รายงานจากกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุด้วยว่า นอกจากเข้าร่วมการประชุมเพื่อความมั่นคงในนครมิวนิกแล้ว หวัง อี้ จะเดินทางต่อไปยังรัสเซียด้วย ซึ่งการเดินทางครั้งนี้นับเป็นการเดินทางเยือนรัสเซียครั้งแรกตั้งแต่กองกำลังรัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ปี 2022 แต่ยังไม่ชัดเจนว่าการเยือนรัสเซียครั้งนี้เกี่ยวข้องกับวาระใด
ทั้งนี้หวัง อี้ เป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีนตั้งแต่ปี 2013-2022 ปลายเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา พรรคคอมมิวนิสต์จีนแต่งตั้ง ฉิน กัง เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐฯ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่
ส่วนหวัง อี้ เปลี่ยนไปดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของพรรคคอมมิวนิสต์แทน รวมถึงมีศักดิ์เป็นนักการทูตจีนระดับสูง ดังจะเห็นจากการที่จีนส่งเขาเดินทางพบปะกับผู้นำและรัฐมนตรีต่างประเทศของยุโรป
สำนักข่าว Globaltimes วิเคราะห์แผนการเดินทางครั้งนี้ว่า เป็นความตั้งใจของจีนที่ต้องการแสดงวิสัยทัศน์ของตนต่อสถานการณ์โลกที่ขณะนี้ความมั่นคงกำลังสั่นคลอนอย่างสุดขั้วให้กับชาติตะวันตก รวมถึงต้องการใช้เวทีนี้แสดงบทบาทของจีนในฐานะ ผู้รักษาสันติภาพและผู้แก้ไขวิกฤต
ส่วนแผนการเยือนรัสเซีย คาดกันว่าจีนต้องการสร้างความร่วมมือทวิภาคีเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของทั้งสองชาติ ซึ่งต้องติตตามรายละเอียดของการพูดคุยว่าจะมีประเด็นใดบ้าง
อย่างไรก็ตามความพยายามของจีนที่จะมีบทบาทบนเวทีโลกในเวลานี้เผชิญอุปสรรคจากกรณีข้อกล่าวหาเกี่ยวกับบอลลูนสอดแนมล่าสุดจีนตั้งข้อสงสัย สหรัฐฯ ใช้บอลลูนเบี่ยงประเด็นอุบัติเหตุสารเคมีรั่ว
ย้อนไปเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ยิงบอลลูนของจีนที่ลอยอยู่เหนือน่านฟ้าของตนตก หลังพบว่าบอลลูนลูกนี้ลอยมานานกว่า 1 สัปดาห์ จีนอ้างว่า บอลลูนดังกล่าวหลุดเส้นทางไปโดยไม่ตั้งใจ และเป็นเพียงบอลลูนเก็บข้อมูลด้านสภาพอากาศเท่านั้น
อย่างไรก็ตามผลการเก็บกู้ซากบอลลูน สหรัฐฯ อ้างว่าภายในมีเซ็นเซอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องกู้ข้อมูลย้อนหลังดูว่าบอลลูนเข้ามาเพื่อสอดแนมจริงหรือไม่
กรณีล่าสุดกลายมาเป็นความขัดแย้งระหว่างสองชาติ แม้เหตุการณ์จะเกิดมานานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนออกมาตำหนิการรายงานข่าวของสื่ออเมริกันรวมถึงสื่อชาติตะวันตกอื่นๆ ว่าเป็นไปในลักษณะมีอคติต่อจีนรวมถึงตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังใช้จีนเบี่ยงเบนความสนใจเพื่อปิดบังอะไรบางอย่าง
โดยยกเหตุการณ์รถไฟตกรางทำสารเคมีรั่วไหลในรัฐโอไฮโอ ซึ่งเกิดขึ้นสัปดาห์เดียวกับเหตุการณ์ยิงบอลลูนตกว่า เหตุใดสื่ออเมริกันจึงไม่รายงานข่าวนี้ให้สะพัดแบบเดียวกับข่าวบอลลูน
นอกจากนั้นจีนยังรายงานด้วยว่า ที่ผ่านมาจีนพบบอลลูนของสหรัฐฯ ลอยเข้ามาในน่านฟ้าของจีนเป็นสิบครั้ง นับตั้งแต่ปี 2022
บอลลูนบางลูกลอยอยู่เหนือพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงอย่าง เขตปกครองตนเองทิเบต หรือ เขตปกครองตนเองซินเจียง-อุยกูร์ และรัฐบาลจีนจัดการบอลลูนเหล่านี้เ้วยวิธีเหมาะสมและเป็นมืออาชีพแล้วแต่ไม่ได้ให้รายละเอียดมากนัก อย่างไรก็ตามทางทำเนียบขาวออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของจีน
ส่วนกรณีอุบัติเหตุรถไฟตกรางเกิดขึ้นที่หมู่บ้านปาเลสไตน์ตะวันออก รัฐโอไฮโอ รายงานระบุว่า รถไฟจำนวน 50 ตู้จากทั้งหมด 140 ตู้ที่ขนสารเคมีอันตรายเกิดพลัดตกราง ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้และระเบิดลูกเล็กหลายลูกตั้งแต่วันที่ 3 ถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต