นาย เจค ซัลลแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงประจำทำเนียบขาวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ ABC ระบุว่า จนถึงตอนนี้จีนยังไม่ได้ให้ความช่วยเหลือด้านอาวุธแก่รัสเซีย แม้รัฐบาลจีนยังไม่มีการตัดสินใจในเรื่องนี้ แต่รัฐบาลสหรัฐอเมริกายังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิดและเฝ้าระวังต่อไป
โดย ซัลลิแวน ระบุว่า การพูดคุยผ่านทางช่องทางด้านการทูต สหรัฐฯเคยเตือนจีนแล้วว่า หากมีการส่งอาวุธช่วยเหลือรัสเซียจริง นอกจากจะก่อให้ผลเสียต่อประเทศอื่นแล้ว จีนจะได้รับผลกระทบด้วย
คำพูดของ ซัลลิแวน สอดคล้องกับ ความเห็นของ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่เชื่อว่าจีนจะไม่ส่งอาวุธสนับสนุนรัสเซียสำหรับการทำสงครามในยูเครน แต่ยืนยันว่าสหรัฐฯ พร้อมดำเนินการตอบโต้ หากจีนดำเนินการช่วยเหลือรัสเซียในด้านนี้จริง
อย่างไรก็ตาม นาย ไมเคิล แมคคอล (Michael McCaul) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกันในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศ เปิดเผยว่า จีนกำลังเตรียมจัดส่งโดรน 100 ลำ ให้แก่รัสเซีย และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จะเดินทางเยือนกรุงมอสโก เพื่อพบกับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
ขณะที่ เมื่อวานนี้ กระทรวงการต่างประเทศจีน เปิดเผยว่า ประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ผู้นำเบลารุส ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของผู้นำรัสเซีย เตรียมเยือนกรุงปักกิ่งในสัปดาห์นี้
โดย หัว ชุนยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า ผู้นำเบลารุสมีกำหนดเยือนปักกิ่งในวันอังคารจนถึงวันพฤหัสบดี แต่ไม่เปิดเผยถึงรายละเอียดถึงประเด็นการเยือนกรุงปักกิ่งครั้งนี้
นอกจากผู้นำเบลารุสแล้ว ยังมีประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ที่เตรียมเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายนนี้ เพื่อหารือกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนถึงแนวทางยุติสงครามรัสเซียยูเครนที่ดำเนินมานานกว่า 1 ปี
การประกาศแผนเดินทางดังกล่าวมีขึ้นภายหลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศจุดยืนต่อวิกฤตในยูเครน ผ่านแผนสันติภาพ 12 ข้อ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
โดย มาครง ย้ำว่าสันติภาพจะเกิดขึ้นได้ หากการรุกรานของกองทัพรัสเซียยุติลง มีการถอนกำลังทหารออกจากยูเครน รวมถึงบูรณภาพแห่งดินแดนและเสียงของประชาชนชาวยูเครนได้รับความเคารพ
เช่นเดียวกับ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ที่ต้องการหารือกับ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เช่นกัน โดยเชื่อว่าการพูดคุยหารือกันนี้จะมีความสำคัญอย่างมากต่อความมั่นคงของประชาคมโลก
ประธานาธิบดี เซเลนสกี ระบุว่า รัฐบาลยูเครนจำเป็นต้องประสานความร่วมมือกับทางการจีน เพื่อทำให้สงครามความขัดแย้งในครั้งนี้สิ้นสุดลง แต่เบื้องต้นยังไม่มีการยืนยันหรือเผยกำหนดการที่จะพบกันอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
สำหรับรัฐบาลจีน แม้แสดงท่าทีไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดในสงครามยูเครนที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว แต่ยังยืนยันถึง “มิตรภาพอันไร้ขีดจำกัด” กับรัสเซียและปฏิเสธที่จะวิจารณ์หรือแม้กระทั่งเรียกการส่งทหารรัสเซียบุกยูเครนว่าเป็นการรุกราน พร้อมกล่าวหาชาติตะวันตกว่าเป็นฝ่ายยั่วยุให้เกิดความขัดแย้ง ด้วยการจัดส่งอาวุธให้แก่ยูเครน