ดาวเคราะห์น้อยนี้มีชื่อว่า 2023 DW ถูกค้นพบเมื่อเดือนที่แล้ว โดยองค์กรอวกาศยุโรปประเมินว่า โอกาสที่ 2023 DW จะพุ่งชนโลก อยู่ที่ 1 ใน 625 (0.16%) ขณะที่ระบบเฝ้าระวังของห้องปฏิบัติการแรงขับเคลื่อนไอพ่น (Jet Propulsion Laboratory's Sentry system) ของนาซา ชี้ว่า ความเป็นไปได้อยู่ที่ 1 ใน 560 (0.18%)
นอกจากนี้ ดาวเคราะห์น้อย 2023 DW ยังเป็นวัตถุเดียวในรายชื่อวัตถุที่มีโอกาสพุ่งชนโลกของนาซา ที่ถูกจัดให้อยู่ในระดับ 1 จากทั้งหมด 10 ระดับ ตามเกณฑ์โตริโน อิมแพ็กต์ ฮาซาร์ด (Torino Impact Hazard)
ดาวเคราะห์น้อย 2023 BU เฉียดโลกที่สุดเท่าที่เคยมีมา
พบเศษอุกกาบาตจากลูกไฟเหนือท้องฟ้ายุโรป
โดยวัตถุอื่นๆ ที่ผ่านมา ถูกจัดให้อยู่ระดับศูนย์ อย่างไรก็ตาม ห้องปฏิบัติการแรงขับเคลื่อนไอพ่นของนาซาระบุว่า แม้ว่า ดาวเคราะห์น้อย 2023 DW จะดูมีความเสี่ยงที่สุด แต่การถูกจัดให้อยู่ระดับ 1 ก็ยังหมายความว่า โอกาสที่จะพุ่งชนนั้นเป็นไปได้น้อยมากๆ และไม่เป็นเหตุให้สาธารณชนต้องสนใจหรือกังวล ขณะที่ระดับ 0 หมายถึง โอกาสที่จะเกิดการพุ่งชนเป็นศูนย์ หรือต่ำมากจนแทบจะเป็นศูนย์
ด้านนายดาวิเด ฟาร์นอคเคีย วิศวกรประจำห้องปฏิบัติการแรงขับเคลื่อนไอพ่นของนาซา กล่าวว่า ความสำเร็จของภารกิจดาร์ต (DART) หรือภารกิจทดสอบการเบี่ยงเบนวิถีโคจรของดาวเคราะห์น้อย เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่า มนุษยชาติสามารถเตรียมพร้อมเพื่อจัดการกับหินอวกาศที่มีเส้นทางโคจรที่อันตรายได้
แต่เจ้าหน้าที่นาซาก็เตือนว่า โอกาสที่จะเกิดการพุ่งชนอาจเปลี่ยนแปลงได้ เมื่อมีการสังเกตและวิเคราะห์ข้อมูลของดาวเคราะห์น้อย 2023 DW มากขึ้น