นางแอฟริล เฮนส์ (Avril Haine) ผู้อำนวยหน่วยฝ่ายข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยการประเมินสถานการณ์ความขัดแย้งในซูดาน โดยเธอระบุว่า ความขัดแย้งระหว่างกองทัพของซูดานและกองกำลังสนับสนุนอย่างรวดเร็ว (RSF) มีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายเชื่อว่า พวกเขาสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ ทำให้มีแรงจูงใจในการเข้าสู่โต๊ะเจรจาเพื่อสงบศึกเพียงเล็กน้อย
ขณะเดียวกันพบว่า กองกำลังทั้งสองฝ่ายกำลังหาผู้สนับสนุนจากภายนอก ซึ่งหากการเจรจากับผู้สนับสนุนเหล่านั้นสำเร็จก็อาจทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงขึ้นอีก
ในการประเมินประจำปีของเรายังครอบคลุมถึงอิหร่าน เกาหลีเหนือ และความท้าทายในระดับภูมิภาคอีกมากมาย ที่สหรัฐฯต้องเผชิญ รวมถึงในแอฟริกา ซึ่งแน่นอนว่า เราได้เห็นการต่อสู้ที่ขยายวงกว้างในซูดานเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับความขัดแย้ง
การสู้รบในซูดาน ระหว่างกองทัพซูดาน และกองกำลัง RSF เราประเมินว่า น่าจะยืดเยื้อ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายเชื่อว่า พวกเขาสามารถเอาชนะทางทหารฝ่ายตรงข้ามได้ และมีแรงจูงใจในการเข้าสู่โต๊ะเจรจาเพียงเล็กน้อย ทั้งสองฝ่ายกำลังแสวงหาแหล่งสนับสนุนจากภายนอก ซึ่งหากสำเร็จก็มีแนวโน้มที่จะทำให้ความขัดแย้งรุนแรงขึ้น และทำให้เกิดความท้าทายต่างๆในภูมิภาค
แต่ว่าการต่อสู้ที่เกิดขึ้นในซูดาน ยิ่งทำให้สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมเลวร้ายยิ่งขึ้น สร้างความตื่นตระหนกให้กับคลื่นผู้ลี้ภัยจำนวนมหาศาล และความต้องการการช่วยเหลือในภูมิภาค
ส่วนสถานการณ์การสู้รบในซูดานยังคงดำเนินต่อไป แม้ยังอยู่ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง มีรายงานว่า กรุงคาร์ทูม เมืองหลวงของซูดานมีเสียงปืนดังสนั่นในใจกลางเมือง
ขณะที่กองทัพซูดาน พยายามผลักดันกองกำลัง RSF ออกจากพื้นที่รอบทำเนียบประธานาธิบดี และกองบัญชาการของกองทัพ
แม้ผู้นำทั้งสองฝ่ายส่งสัญญาณต่อสาธารณชนว่า อยากเข้าสู่โต๊ะเจรจา แต่จนถึงตอนนี้ยังคงมีการสู้รบอย่างต่อเนื่อง และไม่มีท่าทีว่าจะสงบศึก