จุดกำเนิดของ “การช่วยตัวเอง” มีมาตั้งแต่ 40 ล้านปีก่อน!

นักชีววิทยาด้านวิวัฒนาการได้ทำการศึกษาตามหาต้นกำเนิดของ “การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง” (Masturbation) ของมนุษย์ หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่า “ช่วยตัวเอง” ว่าพฤติกรรมดังกล่าวนี้มีมาตั้งแต่ยุคสมัยไหน และเบื้องหลังของการวิวัฒนาการนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

ล่าสุดนักวิจัยพบคำตอบว่า การช่วยตัวเองนี้สามารถย้อนไปได้จนถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในสมัยโบราณที่อาศัยอยู่บนโลกก่อนมนุษย์กลุ่มแรกจะถือกำเนิดหลายสิบล้านปี

 

ดร.มาทิลดา บรินเดิล หัวหน้าทีมวิจัย จากมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน กล่าวว่า “สิ่งที่เราพูดได้ก็คือ พฤติกรรมนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 40 ล้านปีก่อน โดยเป็นบรรพบุรุษร่วมกันของลิงมีหาง (Monkey) และลิงไร้หาง (Ape) ทั้งหมด ... ไม่ใช่ว่าจู่ ๆ พวกมันจะตื่นขึ้นมาในวันหนึ่งและเริ่มช่วยตัวเอง แต่นี่เป็นลักษณะที่เกิดจากการวิวัฒนาการมาแต่โบราณ”

แดนสวรรค์เรื่องเพศ เมื่อ “เซ็กซ์” กำลังถูกผลักดันเป็น “กีฬา” ในสวีเดน

พบหลักฐาน มนุษย์รู้จัก “การจูบ” ตั้งแต่ยุคเมโสโปเตเมีย 4,500 ปีก่อน

“ลึงค์แห่งวินโดลันดา” นักโบราณเชื่อว่าเป็น “เซ็กซ์ทอยยุคโรมัน”

บรินเดิลและทีมวิจัยขุดลึกลงไปในประวัติศาสตร์เชิงพฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต ด้วยความหวังที่จะเข้าใจต้นกำเนิดของปริศนาวิวัฒนาการว่า ทำไมเราจึงต้องช่วยตัวเอง เพราะจากมุมมองเชิงวิวัฒนาการ การช่วยตัวเองดูเหมือนไม่ใช่สิ่งจำเป็น ทั้งเสียเวลา เสียสมาธิ และทำให้อ่อนเพลียได้

นักวิทยาศาสตร์ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการช่วยตัวเองของสัตว์ในอันดับไพรเมต (Primate) จากเอกสาร นักไพรเมตวิทยาและผู้ดูแลสวนสัตว์ต่าง ๆ จากนั้นจัดทำข้อมูลกับสายวิวัฒนาการของไพรเมต เผยให้เห็นว่าพฤติกรรมนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใด

ทีมวิจัยยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ทำไมจึงเกิดการวิวัฒนาการเชิงพฤติกรรมนี้เมื่อ 40 ล้านปีที่แล้ว แต่การวิเคราะห์ของนักวิทยาศาสตร์พบข้อสนับสนุนแนวคิดที่ว่า การช่วยตัวเองของเพศชายช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งท้องของคู่ครอง

สันนิษฐานว่า ไพรเมตเพศชายที่ด้อยกว่าไพรเมตตัวอื่น อาจใช้การช่วยตัวเองเพื่อเร้าอารมณ์ก่อนมีเพศสัมพันธ์ หมายความว่าพวกมันจะสามารถผสมพันธุ์กับคู่ของตัวเองได้เร็วขึ้น ก่อนที่คู่แข่งที่อาจแข็งแรงกว่าหรือน่าดึงดูดกว่าจะมาคว้าเอาคู่ของมันไป นอกจากนี้ การช่วยตัวเองยังสามารถช่วยให้ไพรเมตตัวผู้หลั่งสเปิร์มเก่าทิ้ง เพื่อให้มีสเปิร์มที่สดใหม่กว่าและสามารถแข่งขันทางเพศกับตัวผู้อื่นได้มากขึ้น

นักวิจัยยังพบว่า การช่วยตัวเองของไพรเมตตัวผู้จะเพิ่มขึ้นตามระดับของการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ คำอธิบายหนึ่งอาจเป็นไปได้คือ การช่วยตัวเองหลังมีเพศสัมพันธ์อาจช่วยล้างระบบสืบพันธุ์ ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อได้ แต่ยังไม่เป็นที่ยืนยันแน่ชัด

ทั้งนี้ บรินเดิลกล่าวว่า จำเป็นต้องมีข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อระบุปัจจัยขับเคลื่อนให้เกิดการวิวัฒนาการเชิงพฤติกรรมที่นำมาสู่การช่วยตัวเองในไพรเมตตัวเมีย ข้อสันนิษฐานหนึ่งคือ การช่วยตัวเองก่อนมีเพศสัมพันธ์ทำให้ไพรเมตตัวเมียเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ โดยการทำให้ช่องคลอดมีความเป็นกรดน้อยลง สเปิร์มของคู่ก็จะมีโอกาสเข้าไปปฏิสนธิมากขึ้น

“นี่เป็นพฤติกรรมที่พบได้ทั่วไปในอาณาจักรสัตว์ ฉันพบว่ามันน่างุนงงอย่างยิ่งที่ไม่มีใครทำการวิจัยมาก่อน สำหรับคนที่คิดว่าการช่วยตัวเองเป็นเรื่องผิดหรือไม่เป็นธรรมชาติ นี่คือพฤติกรรมที่เกิดจากธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ มันเป็นส่วนหนึ่งของพฤติกรรมทางเพศที่ดีต่อสุขภาพของเรา” บรินเดิลกล่าว

 

เรียบเรียงจาก The Guardian

ภาพจาก AFP