สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดว่า แกร็บ โฮลดิงส์ บริษัทยักษ์ใหญ่สิงคโปร์ เตรียมที่จะปลดพนักงานครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ระบาด หลังเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมบริการเรียกรถและจัดส่งอาหารทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รายงานข่าวระบุว่า แกร็บเตรียมประกาศปลดพนักงานอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์นี้ และมีแนวโน้มที่จะเป็นการปลดครั้งใหญ่กว่าเมื่อปี 2020 ซึ่งครั้งนั้นเลิกจ้างพนักงานราว 360 คน หรือ 5% ของพนักงานทั้งหมด โดยอ้างผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19
เมื่อวานนี้ (20 มิ.ย.) แอนโทนี ตัน ซีอีโอของบริษัท ยืนยันการปลดพนักงานราว 1,000 ตำแหน่งหรือ 11% ของพนักงานทั้งหมด โดยอ้างถึงความจำเป็นในการจัดการต้นทุนและรับประกันบริการที่เหมาะสมกว่าในระยะยาว
ในจดหมายที่ส่งถึงพนักงานที่เห็นโดยรอยเตอร์ ตันกล่าวว่า การปรับลดพนักงานครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเกิดโรคระบาด ไม่ใช่ “ทางลัดสู่การทำกำไร” แต่เป็นการปรับโครงสร้างเชิงกลยุทธ์เพื่อปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ
เขาบอกว่า “การเปลี่ยนแปลงไม่เคยเร็วขนาดนี้มาก่อน เทคโนโลยีอย่างเช่น Generative AI (ปัญญาประดิษฐ์) กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ต้นทุนต่าง ๆ สูงขึ้น ส่งผลกระทบโดยตรงต่อแนวการแข่งขัน”
ตันบอกอีกว่า “เราต้องรวมขนาดของเราเข้ากับการดำเนินการที่ว่องไวและความเป็นผู้นำด้านต้นทุน เพื่อให้เราสามารถนำเสนอบริการที่ราคาย่อมเยามากขึ้นได้อย่างยั่งยืน และทำให้การเข้าถึงมวลชนของเราลึกซึ้งยิ่งขึ้น”
LinkedIn ปลดพนักงาน 700 คน-ปิดตัวแอปพลิเคชันในจีน
ดิสนีย์เตรียมปลดพนักงานครั้งใหญ่ เป็นระลอกที่ 2 อีกหลายพันคน
“แอมะซอน” เตรียมปลดพนักงานอีก 9,000 คน ระลอกสอง
ซีอีโอแกร็บกล่าวว่า “เราจะแจ้งให้คุณทราบหลังเวลาทำการสำหรับสถานที่ของเราให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้คุณมีพื้นที่และเวลาในการประมวลข้อมูลข่าวนี้อย่างเป็นส่วนตัว” รวมถึงระบุว่า ในส่วนของเงินชดเชยนั้น จะให้ครึ่งเดือนสำหรับอายุงานทุก ๆ 6 เดือน หรือตามหลักเกณฑ์ทางกฎหมายในท้องถิ่น แล้วแต่ว่าหลักเกณฑ์ใดจะให้เงินชดเชยสูงกว่า
บริษัทกล่าวว่า จะให้การสนับสนุนการเปลี่ยนอาชีพและการพัฒนาในรูปแบบของการเข้าถึงการสมัครสมาชิก LinkedIn Premium และการใช้ LinkedIn ฟรี 1 ปี รวมถึงการเข้าถึงเซสชันการเรียนรู้กับโค้ชมืออาชีพ
ตันกล่าวว่า เป้าหมายหลักของการปลดพนักงานคือการ “จัดระเบียบบริษัทใหม่อย่างมีกลยุทธ์” เพื่อให้สามารถ “เคลื่อนที่เร็วขึ้น ทำงานอย่างชาญฉลาดขึ้น และปรับสมดุลทรัพยากร”
เขาเสริมว่า “การปรับโครงสร้างจึงกลายเป็นขั้นตอนที่เจ็บปวดแต่จำเป็น เพื่อทำให้แกร็บอยู่บนวิถีที่ถูกต้องเพื่ออนาคตระยะยาวของเรา”
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผู้ให้บริการแอปเรียกรถโดยสารและส่งอาหารอันดับหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดการณ์ว่ารายได้ปี 2023 จะเพิ่มขึ้น และช่วยให้บริษัทมีผลกำไรครั้งแรก ขณะที่เดือนกันยายนปีที่แล้ว บริษัทระบุว่า ไม่มีแผนที่จะปลดพนักงานจำนวนมากอีก แม้ว่าตลาดจะซบเซา
อย่างไรก็ตาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแกร็บบอกกับพนักงานเมื่อเดือนธันวาคมว่า บริษัทจะหยุดรับคนเพิ่มในตำแหน่งส่วนใหญ่ รวมถึงระงับการขึ้นเงินเดือนสำหรับผู้จัดการอาวุโส และปรับลดงบค่าเดินทางและค่าใช้จ่าย
แกร็บซึ่งมีฐานอยู่ในสิงคโปร์นั้นแม้จะเป็นผู้นำตลาดเรียกรถรับจ้างและจัดส่งสินค้าอาหารรายใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ยังไม่สามารถทำกำไรได้เนื่องจากต้องใช้จ่ายไปกับการเติบโตและการแข่งขันจากคู่แข่ง เช่น GoTo Group ของอินโดนีเซีย
รายงานประจำปีล่าสุดระบุว่า ณ สิ้นปี 2022 แกร็บมีพนักงานอยู่ทั้งหมด 11,934 คน ปัจจุบันประกอบธุรกิจใน 8 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงสิงคโปร์ อินโดนีเซีย และไทย
การปรับลดพนักงานครั้งใหญ่ครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า แกร็บกำลังยอมจำนนต่อแรงกดดันของนักลงทุนในการลดต้นทุนให้เร็วขึ้น เพราะที่ผ่านมา แกร็บลดค่าใช้จ่ายได้ช้ากว่าคู่แข่งรายอื่นในภูมิภาค เช่น GoTo และ Sea ของสิงคโปร์ ที่เลิกจ้างงานไปหลายพันคนในปีที่แล้ว
นอกจากนี้ แกร็บยังเผชิญกับการเติบโตที่ชะลอตัว เนื่องจากลูกค้าต้องต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ในขณะที่บริษัทรายงานผลขาดทุนรายไตรมาสที่แคบลงเมื่อเดือนที่แล้ว แต่มูลค่ารวมของบริษัทเพิ่มขึ้นเพียง 3% ในช่วง 3 เดือนจนถึงเดือนมีนาคม นอกจากนี้ การเติบโตของผู้ใช้ยังชะลอตัวเนื่องจากคู่แข่งหลอกล่อลูกค้าด้วยโปรโมชันและการลดราคา
ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แกร็บรายงานผลขาดทุนประจำไตรมาสที่ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (8.7 พันล้านบาท) แต่รายรับในไตรมาสแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น 130.3% จากปีที่แล้ว เป็น 525 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.83 หมื่นล้านบาท)
เรียบเรียงจาก Bloomberg / Reuters
ภาพจาก AFP