แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เชื่อว่า ความพยายามก่อกบฎของกลุ่มแวกเนอร์กรุ๊ปแสดงให้เห็นถึงรอยร้าวในอำนาจของ ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเหตุวุ่นวายที่เกิดขึ้นในรัสเซียจะส่งผลอย่างไรต่อสงครามในยูเครน
บลิงเคนได้ให้สัมภาษณ์กับ สำนักข่าวหลายแห่ง โดยระบุว่าความวุ่นวายที่เกิดจากความพยายามก่อกบฎของกลุ่มทหารรับจ้างแวกเนอร์กรุ๊ปอาจยังไม่ยุติลง แม้นาย เยฟกินี พริโกซิน หัวหน้ากลุ่มได้ประกาศยกเลิกความตั้งใจดังกล่าวแล้ว
โดย บลิงเคน มองว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในรัสเซียแสดงให้เห็นว่าอำนาจการปกครองของประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน กำลังเกิดรอยร้าว แต่ยังเร็วเกินไปที่จะคาดการณ์ว่าการก่อกบฎของแวกเนอร์กรุ๊ปส่งผลกระทบอย่างไรต่อรัฐบาลรัสเซีย หรือ ทิศทางของสงครามในยูเครน
อย่างไรก็ตาม บลิงเคน ตั้งข้อสังเกตว่าสถานการณ์ของ ปูติน ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดจากที่เคยเกือบยึดกรุงเคียฟของยูเครนได้เมื่อ 16 เดือนก่อน แต่ตอนนี้กลับต้องมาตั้งรับปกป้องกรุงมอสโกจากกลุ่มทหารรับจ้างของตนเอง
เช่นเดียวกับสถาบันศึกษาสงครามในกรุงวอชิงตันดีซี ซึ่งติดตามสงครามยูเครนมาตั้งแต่ต้น ที่เชื่อว่ารัฐบาลรัสเซียกำลังเผชิญกับดุลยภาพที่ไม่มั่นคงอย่างมาก” และ “ข้อตกลงที่เกิดขึ้นเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาระยะยาว”
ส่วนสถานการณ์สู้รบในยูเครน นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ วิตาลี คลิตชโก เปิดเผยว่ายอดผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีด้วยโดรนรัสเซียที่เกิดขึ้นในพื้นที่เมื่อวันเสาร์ เพิ่มขึ้นเป็น 5 คน หลังจากทีมกู้ภัยค้นพบร่างผู้เสียชีวิต 2 คนใต้ซากอาคารอะพาร์ตเมนต์ 24 ชั้นที่พังถล่มในย่านโซโลเมียนสกี
กองทัพยูเครนที่ทำหน้าที่ปกป้องกรุงเคียฟ ระบุว่าการโจมตีเมื่อวันเสาร์นับเป็นเหตุโจมตีเมืองหลวงยูเครนเป็นครั้งที่ 8 นับตั้งแต่เริ่มต้นเดือน มิ.ย. ขณะที่ระบบป้องกันทางอากาศของกองทัพยูเครนยิงสกัดขีปนาวุธรัสเซียมากกว่า 20 ลูกบริเวณน่านฟ้ากรุงเคียฟ
นอกจากกรุงเคียฟแล้ว ทางการยูเครนยังรายงานการโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียในอีกหลายเมืองเมื่อวันเสาร์ สร้างความเสียหายต่ออาคารและมีรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตด้วย เช่นเหตุโจมตีในดนิโปร ที่มีรายงานผู้บาดเจ็บ 11 คน
ยูเครนฉวยจังหวะรุกกลับ ขณะรัสเซียเผชิญกบฏแวกเนอร์
มาเร็วไปเร็ว! ย้อนไทม์ไลน์ “กบฏแวกเนอร์” การก่อกบฏที่จบใน 24 ชม.
“แวกเนอร์” ประกาศยุติการก่อกบฏ “พริโกซิน” เตรียมเดินทางไปเบลารุส