ที่เม็กซิโก สัปดาห์ที่ผ่านมา การไต่สวนเรื่องมัมมี่ปริศนาซึ่งมีหน้าตาคล้ายมนุษย์ต่างดาว กลายมาเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสนใจ แม้ว่าในเวลาต่อมา ผู้เชี่ยวชาญจะออกมาชี้ว่า นั่นไม่น่าใช่สิ่งมีชีวิตจากนอกโลกจริง แต่เจ้าของร่างดังกล่าวก็ยังคงยืนยันว่า ร่างทั้งสองไม่ใช่มนุษย์ และไม่ได้เกี่ยวพันกับสิ่งมีชีวิตใดบนโลก และย้ำด้วยว่า เขาไม่กังวลหากจะมีการตรวจสอบ
นาซาแนะเม็กซิโกเปิดทาง ให้นักวิทย์ตรวจสอบซากมัมมี่มนุษย์ต่างดาว
“เราไม่ได้อยู่คนเดียว” นักข่าวนำ “มัมมี่มนุษย์ต่างดาว” เสนอต่อรัฐสภาเม็กซิโก
นาซารายงานพบหลักฐาน อาจมีมหาสมุทรอยู่บนดาวเคราะห์ “K2-18 b”
ไฮเม เมาส์แซน นักข่าวชาวเม็กซิโก ซึ่งหลงใหลและศึกษาเรื่องวัตถุบินได้ที่ไม่สามารถอธิบายได้ หรือยูเอฟโอ มาเป็นเวลานาน กำลังตกเป็นที่สนใจจากนานาประเทศ หลังจากที่เขานำร่างปริศนาสองร่าง ซึ่งเป็นมัมมี่ลักษณะคล้ายเอเลี่ยน ไปปรากฏต่อหน้าสมาชิกสภานิติบัญญัติของเม็กซิโกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
โดยร่างปริศนาทั้งสอง มีศีรษะที่ใหญ่กว่าลำตัว แต่ละมือมีนิ้วสามนิ้ว และขาราวกับแท่งไม้ ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาไม่ทั่วโลก
โดยเมาส์แซนอ้างว่า ร่างทั้งสองนี้ไม่ใช่มนุษย์ และไม่ได้เกี่ยวข้องกับสายพันธุ์สิ่งมีชีวิตใดก็ตามบนโลกใบนี้ เขายังเผยแพร่ผลการศึกษาและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์บนโลกโซเชี่ยลมีเดีย ซึ่งระบุว่า ตัวเขาได้พิสูจน์แล้วว่า ร่างทั้งสองมีอายุราว 1,000 ปี และไม่ได้เกี่ยวข้องกับสายพันธุ์ใดบนโลก
เมาส์แซนยังระบุด้วยว่า ควรจะมีการตรวจสอบเรื่องนี้ และเขาไม่กังวลแต่อย่างใด เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรผิด
"ผมไม่กังวล ผมไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย พวกเขาควรเริ่มการตรวจสอบ ตอนนี้ ผมเชื่อว่าวันหนึ่ง ร่างทั้งหมดจะกลับคืนสู่เปรู แต่ต้องเป็นในกรณีที่รัฐบาลเปรูให้คำมั่นว่าตรวจสอบพวกเขา พิพิธภัณฑ์ต้องสำรองที่ให้ร่างทั้งหมดเหล่านี้ มันอาจจะมีสัก 20 หรือมากกว่านั้นอีก" เมาส์แซนกล่าว
อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิทยาศาสตร์และนักโบราณคดีในเปรู ซึ่งเป็นสถานที่ที่เมาส์แซนพบร่างทั้งสองในปี 2017 เรียกร่างทั้งสองว่าเป็นละครตลก ประกอบขึ้นมาด้วยกระดูกสัตว์
ขณะที่นาซ่าตั้งคำถามว่า ทำไมไม่มีการตรวจสอบร่างทั้งสอง และนักวิทยาศาสตร์ชาวเม็กซิกันรายหนึ่งได้อ่านผลการทดสอบที่เมาส์แซนแชร์บนโซเชี่ยลมีเดียแล้ว และสรุปว่า มันคือสิ่งมีชีวิตปกติบนโลกใบนี้นี่เอง
จูเลียตา เฟียร์โร นักวิทยาศาสตร์แห่งสถาบันดาราศาสตร์ มหาวิทยาลัยอิสระแห่งชาติเม็กซิโก หรือ UNAM เปิดเผยว่า ทาง UNAM ได้ทำการทดสอบตัวอย่างด้วยการตรวจคาร์บอน เพื่อคาดเดาอายุของร่างปริศนาดังกล่าว และพบว่า ตัวอย่างนั้น มีสมอง และผิว มาจากมัมมี่คนละตัว ซึ่งตายคนละช่วงเวลาด้วย
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของเปรู ตั้งคำถามว่า นายเมาส์แซนนำร่างทั้งสองออกไปจากประเทศได้อย่างไร เพราะทั้งสองร่างถือว่าเป็นโบราณวัตถุ และระบุว่า มีการยื่นฟ้องเขาไปแล้วด้วย