เมื่อวานนี้ ( 21 พ.ค.) กระทรวงกลาโหมของรัสเซียเปิดเผยว่า กองทัพรัสเซียได้เริ่มทำการฝึกซ้อมรบนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีระยะแรก โดยมีกองกำลังขีปนาวุธที่อยู่ในเขตทหารทางตอนใต้ของรัสเซีย ที่อยู่ติดกับยูเครน รวมถึงกองกำลังบางส่วนที่อยู่ในพื้นที่ยูเครนที่ตกอยู่ภายใต้การควบคุม รวมถึงกองกำลังเบลารุมเข้าร่วมด้วย
กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงด้วยว่า การฝึกซ้อมระยะนี้ จะมีการใช้ขีปนาวุธอิสกันเดอร์ (Iskander) ที่มีศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์ และขีปนาวุธคินซาล ซึ่งเป็นขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง
ทั้งนี้จุดมุ่งหมายในการซ้อมรบประเภทดังกล่าวของรัสเซียมีขึ้นเพื่อทำให้แน่ใจว่า หน่วยงาน และอุปกรณ์ต่างๆเตรียมพร้อมสำหรับการใช้งานในการต่อสู้เพื่อปกป้องดินแดน และตอบสนองต่อแถลงการณ์ที่ยั่วยุ และคุกคามจากชาติตะวันตกหรือไม่
แม้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี มีพลังน้อยกว่าอาวุธทางยุทธศาสตร์ที่ออกแบบมาเพื่อกวาดล้างดินแดนของศัตรูทั้งหมด แต่ถึงอย่างนั้นอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี ก็มีศักยภาพในการทำลายล้างมหาศาลเช่นเดียวกัน
สำหรับความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้สั่งการให้มีการซ้อมรบประเภทดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องการแถลงการณ์ทางทหารของรัสเซีย
ทั้งนี้นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงชี้ว่า การซ้อมรบดังกล่าวของรัสเซียเป็นการส่งสัญญาณเตือนชาติตะวันตกของประธานาธิบดีปูติน ไม่ให้เข้ามามีส่วนร่วมกับสงครามในยูเครน
หลังจากก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียอ้างถึงความเห็นของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสที่เอ่ยถึงความเป็นไปได้ในการส่งกองกำลังทหารของยุโรปเข้าไปช่วยต่อสู้กับรัสเซียในยูเครน
เช่นเดียวกับเดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษ ที่ออกมาแสดงความเห็นว่า ยูเครนมีสิทธิ์ใช้อาวุธที่รัฐบาลอังกฤษจัดหาให้โจมตีเป้าหมายต่างๆในรัสเซีย
ส่วนความเคลื่อนไหวของสงครามระหว่างรัสเซีย และยูเครน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (20 พ.ค.) กระทรวงกลาโหมของรัสเซียอ้างว่า กองทัพรัสเซียยังคงครองตำแหน่งการรบที่ดีในคาร์คีฟ และพื้นที่อื่นๆ
โดยในช่วง 24 ชั่วโมงพบ ทหารรัสเซียสามารถเข้าควบคุมนิคมในพื้นที่แคว้นลูฮันสก์ ทางตะวันออกสุดของยูเครนได้อย่างสมบูรณ์ รวมถึงขับไล่การตอบโต้ของกองทัพยูเครนได้ในหลายทิศทาง ตลอดจนโจมตีคลังกระสุน ระบบป้องกันภัยทางอากาศ และเป้าหมายอื่นๆของกองทัพยูเครน
เช่นเดียวกับระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียก็สามารถสกัดกั้นขีปนาวุธของยูเครน รวมถึงระเบิด และโดรนได้อีกหลายลำส่วนทางฝั่งของยูเครน ในวันเดียวกันได้อ้างว่า กองทัพยูเครนครองตำแหน่งการสู้รบแนวหน้าในคาร์คีฟ และพื้นที่อื่นๆได้แล้ว และยังคงสู้รบอย่างดุเดือดกับกองทัพรัสเซียต่อไป
โดยกองทัพยูเครน ระบุว่า ทหารยูเครนได้ทำลายรถถังรัสเซีย ระบบป้องกันภัยทางอากาศ และเป้าหมายทางทหารอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ได้มีการโจมตีพื้นที่รวมตัวของทหารรัสเซีย และจุดควบคุมอื่นๆด้วย
พยากรณ์ฝนล่วงหน้า ฝนตกหนักยาวถึงสิ้นเดือน จับตาดีเปรสชัน!
หลุมอากาศคืออะไร พร้อมวิธีรับมือเมื่อตกหลุมอากาศบนเครื่องบิน
กรมราชทัณฑ์ รับสมัครข้าราชการ 102 อัตรา ระหว่าง 27 พ.ค. - 18 มิ.ย. 67