องค์การอวกาศนาซาเปิดเผยว่า กล้องโทรทรรศน์อวกาศ เจมส์ เว็บบ์ (JWST) และกล้องโทรทรรศน์อวกาศจันทรา (Chandra) ได้ทำงานร่วมกันในการศึกษาหนึ่งในวัตถุอวกาศที่มีชื่อเสียงที่สุด นั่นคือ “เนบิวลาปู” (Crab Nebula) และเผยแพร่ภาพล่าสุดออกมา
ภาพดังกล่าวประกอบด้วยข้อมูลรังสีเอ็กซ์ที่จันทรารวบรวมมาเป็นเวลาประมาณ 2 ทศวรรษ ซึ่งแสดงการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในเศษซากและการแผ่รังสีที่เหลืออยู่หลังจากการระเบิดของดาวมวลมากในกาแล็กซีของเรา
เนบิวลาปูเกิดจากการระเบิดซูเปอร์โนวาที่นักดาราศาสตร์ชาวจีนและนักดาราศาสตร์คนอื่น ๆ สังเกตเห็นมาตั้งแต่ปี 1054 หรือเกือบ 1,000 ปีก่อน มันอยู่ห่างจากโลก 6,500 ปีแสง
ภาพถ่ายเผยให้เห็นว่า ที่ใจกลางของมันคือดาวนิวตรอนที่หมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วสูงมาก หรือ “พัลซาร์” (Pulsar) เป็นวัตถุที่มีขนาดกะทัดรัดแต่หนาแน่นมากซึ่งเกิดจากซูเปอร์โนวา หมุนด้วยความเร็วประมาณ 30 ครั้งต่อวินาที ลำแสงของมันจะส่องผ่านโลกทุก ๆ การหมุน เหมือนกับประภาคารแห่งจักรวาล
เมื่อพัลซาร์อายุน้อยหมุนช้าลง พลังงานจำนวนมากจะถูกปล่อยออกมายังบริเวณโดยรอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลมความเร็วสูงของสสารและอนุภาคปฏิสสารจะพัดเข้าสู่เนบิวลาที่อยู่รอบ ๆ ทำให้เกิดคลื่นกระแทกที่ก่อตัวเป็นวงแหวน ไอพ่น (Jet) จากขั้วของพัลซาร์พ่นสสารที่เปล่งรังสีเอ็กซ์และอนุภาคปฏิสสารออกมาในทิศทางตั้งฉากกับวงแหวน
ตลอดระยะเวลา 22 ปีที่ผ่านมา จันทราได้สำรวจเนบิวลาปูหลายครั้ง ด้วยระยะเวลาที่ยาวนานนี้ นักดาราศาสตร์เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนทั้งบริเวณวงแหวนและไอพ่นที่ปล่อยออกมา
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ข้อมูลจันทราถูกรวมเข้ากับข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศ เจมส์ เว็บบ์ เพื่อช่วยระบุที่มาของโครงสร้างลึกลับภายในซากที่เหลืออยู่
เรียบเรียงจาก Chandra X-ray Observatory
โปรแกรมบอลยูโร 2024 ทุกคู่ เวลาแข่งขัน EURO 2024
ไทยจ่อเข้าสู่สภาวะ “ลานีญา” มิ.ย.-ส.ค.นี้ หลายปัจจัยทำฝนตกเพิ่มขึ้น