เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ทีมนักวิทยาศาสตร์ที่นำโดยอิตาลีได้เปิดเผยการค้นพบ “ถ้ำบนดวงจันทร์” (Lunar Cave) โดยเป็นครั้งแรกที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าบนดาวบริวารของเรามีถ้ำอยู่จริง ๆ หลังมีการตั้งข้อสงสัยมานานกว่า 50 ปี
ถ้ำดังกล่าวมีลักษณะเป็นถ้ำใต้ดินขนาดใหญ่ที่สามารถเข้าถึงได้จากพื้นผิว ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นทำเลที่ดีเยี่ยมในการเป็นที่พักให้นักบินอวกาศและการสร้างฐานดวงจันทร์ในอนาคต
ถ้ำนี้เข้าถึงได้จากหลุมบริเวณทะเลแห่งความเงียบสงบ (Mare Tranquillitatis) หรือที่ราบลาวาโบราณ ซึ่ง นีล อาร์มสตรอง และบัซ อัลดริน ลงจากยานอะพอลโล 11 มาเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว โดยเป็นหลุมที่ลึกที่สุดบนดวงจันทร์เท่าที่มนุษย์รู้จัก
นักวิทยาศาสตร์ตั้งสมมติฐานว่ายังมีถ้ำแบบนี้อีกหลายร้อยแห่ง
การวิเคราะห์ข้อมูลเรดาร์ที่รวบรวมโดยยานอวกาศสำรวจดวงจันทร์ (LRO) ของนาซา เผยให้เห็นว่าหลุมดังกล่าวได้นำไปสู่ถ้ำที่มีความกว้าง 45 เมตรและยาวถึง 80 เมตร ซึ่งเทียบเท่ากับสนามเทนนิส 14 สนาม โดยอยู่ลึกลงไปใต้ดินประมาณ 150 เมตร
ทีมวิจัยรายงานว่า ถ้ำที่พบนี้อาจเป็นอุโมงค์ลาวา (Lava Tube) หรือโครงสร้างที่เกิดจากการที่ลาวาไหลมาบนพื้นผิว ผิวส่วนนอกสัมผัสอากาศจนแข็งตัวกลายเป็นหินอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ภายในยังหนืดจึงสามารถเคลื่อนที่ไปต่อได้ ทำให้เกิดเป็นโพรงเหมือนกับถ้ำ
ลีโอนาโด คาร์เรอร์ และลอเรนโซ บรูซโซเน จากมหาวิทยาลัยเทรนโต ซึ่งอยู่ในทีมผู้ค้นพบ กล่าวว่า “ถ้ำบนดวงจันทร์ยังคงเป็นปริศนามานานกว่า 50 ปี ดังนั้นมันจึงน่าตื่นเต้นมากที่สามารถพิสูจน์การมีอยู่ของมันได้ในที่สุด”
บรูซโซเนกล่าวต่อว่า ถ้ำแห่งนี้อาจเป็นอุโมงค์ลาวาที่ว่างเปล่า และเสริมว่าลักษณะดังกล่าวสามารถใช้เป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์สำหรับนักสำรวจในอนาคตได้ เนื่องจากถ้ำดังกล่าวเป็น “ที่พักพิงตามธรรมชาติจากสภาพแวดล้อมที่รุนแรงบนดวงจันทร์”
นั่นหมายความว่า ถ้ำดังกล่าวอาจเป็นฐานสำหรับฐานดวงจันทร์หรือที่พักพิงฉุกเฉินบนดวงจันทร์ได้ เนื่องจากอุณหภูมิภายในค่อนข้างคงที่ และนักบินอวกาศจะได้รับการปกป้องตามธรรมชาติจากรังสีคอสมิก รังสีดวงอาทิตย์ และอุกกาบาตขนาดเล็กที่เป็นอันตราย
ยานสำรวจดวงจันทร์ค้นพบหลุมบนดวงจันทร์เป็นครั้งแรกเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว และจนถึงปัจจุบันมีการพบหลุมอย่างน้อย 200 หลุมบนดวงจันทร์ ซึ่งนักวิทย์คาดว่าหลายแห่งที่พบในทุ่งลาวาอาจเป็นทางเข้าสู่ท่อลาวาใต้ดินที่เป็นโพรง
คาร์เรอร์บอกว่า “ข้อได้เปรียบหลักของถ้ำคือทำให้มีชิ้นส่วนโครงสร้างหลักของการสร้างฐานมนุษย์ที่เป็นไปได้ โดยไม่ต้องมีการก่อสร้างที่ซับซ้อน”
นอกจากนี้ หินและวัสดุอื่น ๆ ภายในถ้ำเหล่านี้ ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงแม้ผ่านมานานหลายยุคหลายสมัย ยังช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจวิวัฒนาการของดวงจันทร์ได้ดีขึ้น เนื่องจากมีแนวโน้มว่าจะมีเบาะแสเกี่ยวกับการก่อตัวของดวงจันทร์และประวัติศาสตร์ภูเขาไฟ อีกทั้งถ้ำเหล่านี้อาจมีน้ำแข็งอยู่ด้วย
เรียบเรียงจาก Associated Press / The Guardian
ตรวจหวยงวดนี้ - ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ลอตเตอรี่ 16/7/67