กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน (IRGC) แถลงว่า อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาสซึ่งเสียชีวิตเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ถูกสังหารด้วย “อาวุธพิสัยใกล้” ที่ยิงมาจากนอกบ้านพักของเขาในกรุงเตหะราน
ในแถลงการณ์ที่ออกเมื่อวันที่ 3 ส.ค. IRGC ระบุว่า จากการสืบสวนที่ดำเนินการจนถึงขณะนี้ พบว่า “การโจมตีฮานิเยห์กระทำโดยการยิงอาวุธพิสัยใกล้ซึ่งบรรจุวัตถุระเบิดประมาณ 7 กิโลกรัม และยิงจากนอกบ้านพักของเขา”
IRGC ยังบอกอีกว่า “อิสราเอลจะได้รับการลงโทษอย่างรุนแรงในเวลาและสถานที่ที่เหมาะสม” สำหรับการลอบสังหารฮานิเยห์ ซึ่ง IRGC ระบุว่า “ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอาชญากรของสหรัฐฯ”
อิสราเอลไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธคำกล่าวหาดังกล่าว ในขณะที่สหรัฐฯ กล่าวว่า “ไม่ทราบหรือมีส่วนเกี่ยวข้อง” กับการลอบสังหารฮานิเยห์
ฮานิเยห์และบอดี้การ์ดของเขาถูกสังหารในเกสต์เฮาส์ของรัฐบาลอิหร่านในกรุงเตหะรานเมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าอาจจะผลักดันให้ตะวันออกกลางเข้าสู่ความขัดแย้งเพิ่มเติมท่ามกลางสงครามอิสราเอลในฉนวนกาซาที่ยังไม่ยุติ
ฮานิเยห์เดินทางไปกรุงเตหะรานเพื่อเข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ มาซูด เปเซชเคียน
รายงานของอิหร่านเกิดขึ้นหลังก่อนหน้านี้สื่อตะวันตกรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ฮานิเยห์เสียชีวิตจากระเบิดถูกแอบนำมาติดตั้งไว้ในบ้านพักของเรา
ตามคำกล่าวของนักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัย เอช.เอ. เฮลล์เยอร์ สิ่งที่อิหร่านจะนำมาใช้เพื่ออธิบายวิธีการลอบสังหารฮานิเยห์จะกำหนดรูปแบบการยกระดับสถานการณ์ต่ออิสราเอล
เฮลล์เยอร์บอกว่า “ยังไม่ชัดเจนว่าเขาถูกลอบสังหารอย่างไร แต่ข้อสรุปใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้จะมีผลร้ายแรงต่อความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นต่อไปและเรื่องราวที่จะเกิดขึ้น”
เขาเสริมว่า “มีข้อแตกต่างระหว่างสถานการณ์ทั้งสองประเภทนี้” Hellyer กล่าว และเสริมว่าขีปนาวุธอาจบ่งบอกว่า “การละเมิดความปลอดภัยอาจเกิดขึ้นได้ในแง่ของการรู้ว่าจะต้องโจมตีที่ใด แต่การละเมิดความปลอดภัยนี้แตกต่างไปจากกรณีที่มีการลักลอบนำระเบิดเข้ามาในประเทศอิหร่าน”
ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า ไม่ว่าคำอธิบายเกี่ยวกับการลอบสังหารฮานิเยห์จะเป้นอย่างไร แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนแสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของหน่วยงานความมั่นคงของอิหร่าน “ค่อนข้างชัดเจนว่าอิหร่านด้อยกว่าในแง่ของสงครามอิเล็กทรอนิกส์ และในแง่ของสัญญาณและการสื่อสารที่ถูกดักฟัง”
ด้าน อิบราฮิม เฟรฮัต จากสถาบันโดฮา กล่าวว่า การตอบสนองของอิหร่านไม่น่าจะเหมือนการตอบโต้เมื่อครั้งอิสราเอลถล่มสถานทูตอิหร่านในกรุงดามัสกัสของซีเรียเมื่อเดือน เม.ย. ซึ่งอิหร่านตอบโต้ด้วยการส่งโดรนถล่ม
“การลอบสังหารอิสมาอิล ฮานิเยห์ ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของอิหร่าน ด้วยเหตุนี้ จึงคาดว่าอิหร่านจะตอบโต้ในลักษณะที่เทียบเท่ากับการโจมตีที่พวกเขาประสบ” เฟรฮัตกล่าว
เรียบเรียงจาก Al Jazeera