จากกรณี “ลลิตา กายี” หญิงชาวอเมริกันวัย 50 ปี ถูกล่ามโซ่ไว้กับต้นไม้ในป่าทึบเขตสินธุทุรค (Sindhudurg) รัฐมหาราษฏระ ทางตะวันตกของอินเดีย โดยถูกทิ้งไว้ราว 10 วันจนเจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ ซึ่งเธออ้างว่าสามีของเธอ “ล่ามโซ่เธอและทิ้งเธอไว้ในป่าจนตายโดยไม่ได้กินอาหารหรือน้ำ”
ล่าสุด ตำรวจและแพทย์ของเธอเปิดเผยว่า ความจริงแล้ว ผู้ที่ล่ามโซ่หญิงชาวอเมริกันรายนี้ก็คือ “ตัวเธอเอง”
กายี ซึ่งขณะนี้กำลังรับการรักษาในสถานพยาบาลจิตเวช ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสาธารณะ ขณะที่สถานทูตสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเช่นกัน โดยอ้างถึงสิทธิความเป็นส่วนตัวของเธอ
การพบกายีในสภาพที่หิวโซและถูกล่ามอยู่กลางป่าทำให้ทั้งอินเดียตกตะลึง ตำรวจได้จัดตั้งทีมสืบสวนหลายทีมเพื่อเร่งสืบสวนว่าเธอมาอยู่ในป่าได้อย่างไร
ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งยุบพรรคก้าวไกล ตัดสิทธิการเมืองกก.บห. 10 ปี
ลิงก์ดูโอลิมปิก 2024 เชียร์ "น้องเทนนิส" และนักกีฬาไทย วันที่ 7 ส.ค. 67
ผ้าคลุมรถกันความร้อน และ 4 ไอเทมที่ช่วยทำให้รถดูสวยใหม่ตลอดเวลา
ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ส.ค. ซอรัพ อการ์วัล ผู้กำกับการตำรวจสินธุทุรค กล่าวว่า จริง ๆ แล้วกายีไม่ได้แต่งงาน และเธออาจจะมีอาการประสาทหลอนเมื่อเธอให้ปากคำครั้งแรก
ตำรวจกล่าวว่า เธอบอกกับพวกเขาว่า เธอรู้สึกวิตกกังวลเพราะวีซ่าของเธอหมดลงและเธอก็กำลังจะหมดเงิน ดังนั้นเธอจึงซื้อกุญแจและโซ่และมัดตัวเองไว้กับต้นไม้
ดร.ซังกาไมตรา ภูเล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชในเขตรัตนคีรี ซึ่งกำลังให้การรักษากายี บอกว่า “อาการของเธอดีขึ้น เธอกินอาหารได้ เดิน และออกกำลังกาย เธออยู่ระหว่างการรักษา และเรายังให้สารอาหารบางอย่างแก่เธอที่ร่างกายของเธอขาดอยู่”
ดร.ภูเลกล่าวว่า มีการติดต่อครอบครัวของเธอที่อยู่ในสหรัฐฯ และกายีได้ติดต่อกับพวกเขาทางโทรศัพท์แล้ว
เธอถูกพบเมื่อวันที่ 27 ก.ค. โดยคนเลี้ยงวัวที่กำลังพาวัวไปกินหญ้าในป่าได้ยิน “เสียงผู้หญิงกรีดร้อง”
คนเลี้ยงวัวเล่าว่า “เสียงนั้นดังมาจากป่าบนไหล่เขา เมื่อผมไปถึงที่นั่น ผมเห็นขาข้างหนึ่งของเธอถูกล่ามไว้กับต้นไม้ เธอกรีดร้องเหมือนสัตว์ ผมจึงโทรเรียกชาวบ้านและตำรวจในพื้นที่”
ตำรวจได้เลื่อยโซ่และช่วยเธอไว้ได้ นางสาวกายีซึ่งดูผอมแห้งมาก ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และเมื่อสุขภาพกายของเธอดีขึ้น เธอจึงถูกย้ายไปยังสถานพยาบาลจิตเวชเพื่อรับการรักษาเพิ่มเติม
ตำรวจกล่าวว่า พวกเขาพบสำเนาหนังสือเดินทางของเธอ ซึ่งระบุว่าเธอเป็นพลเมืองสหรัฐฯ ที่มาจากแมสซาชูเซตส์ และเอกสารอื่น ๆ ที่ระบุที่อยู่บ้านของเธอในรัฐทมิฬนาฑู นอกจากนี้ เธอยังมีโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และเงิน 31,000 รูปี (ราว 13,000 บาท)
เธอบอกว่าเธอแต่งงานกับผู้ชายในรัฐทมิฬนาฑูทางตอนใต้ และกล่าวโทษว่าเขามัดเธอไว้กับต้นไม้ เธออ้างว่าเธอขาดอาหารและน้ำเป็นเวลา 40 วัน ตำรวจตั้งคำถามเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างของเธอ โดยระบุว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ใครจะอยู่รอดได้หากขาดอาหารและน้ำเป็นเวลานานขนาดนั้น
เรียบเรียงจาก BBC