กองบัญชาการกลางสหรัฐฯ (CENTCOM) ซึ่งดูแลกองกำลังอเมริกันในภูมิภาคตะวันออกกลางของสหรัฐฯ ได้โพสต์ภาพเครื่องบินขับไล่ "F-22 แรปเตอร์" (F-22 Raptor) บนแพลตฟอร์ม X พร้อมข้อความที่ระบุว่า เครื่องบินเหล่านี้ได้เดินทางถึงพื้นที่รับผิดชอบแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ตามแผนการปรับกำลังเพื่อรับมือกับสถานการณความตึงเครียดในภูมิภาคที่เพิ่มสูงขึ้น หลังเหตุสังหาร อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองกลุ่มฮามาส ในกรุงเตหะราน ของอิหร่านเมื่อวันที่ 31 ก.ค.
ขณะที่ทีมโฆษกกองทัพอากาศกลางสหรัฐฯ (AFCENT) ปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่า เครื่องบิน F-22 รวมถึงเครื่องบินขับไล่รุ่นอื่น ๆ ประจำการอยู่ที่ใดบ้างในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยให้เหตุผลในเรื่องความมั่นคง
โดย ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐยืนยันว่า จะไม่ปล่อยให้กำลังพลสหรัฐฯในตะวันออกลางตกอยู่ในอันตราย หลังจากเมื่อวันที่ 5 ส.ค เกิดเหตุโจมตีฐานทัพในอิรัก ทำให้ทหารอเมริกันหลายนายได้รับบาดเจ็บ
ขณะเดียวกัน อิสราเอลเพิกถอนสถานะผู้แทนการทูต เจ้าหน้าที่การทูตนอร์เวย์ประจำปาเลสไตน์จำนวน 8 คน โดย อิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล กล่าวว่าการตัดสินใจดังกล่าวเป็นการตอบโต้ “พฤติกรรมต่อต้านอิสราเอล” ของนอร์เวย์ นับตั้งแต่สงครามในฉนวนกาซาเปิดฉากขึ้น เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ปีที่แล้ว
โดยนอร์เวย์ประกาศให้การรับรองสถานะความเป็นรัฐของปาเลสไตน์ และการสนับสนุนให้มีการดำเนินคดีอาชญากรสงครามกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอล ผ่านศาลอาญาระหว่างประเทศ
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศนอร์เวย์ออกแถลงการณ์ ระบุว่าการเพิกถอนสถานะผู้แทนการทูต ของคณะเจ้าหน้าที่นอร์เวย์ประจำปาเลสไตน์ 8 คน “เป็นการดำเนินการที่รุนแรงเกินไป” และ “จะส่งผลกระทบอย่างแน่นอนต่อความสัมพันของทั้งาองประเทศ โดยจะต้องดำเนินมาตรการโต้อิสราเอลตามความเหมาะสม
เปิดข้อมูล "พรรคถิ่นกาขาว" ก่อนเปลี่ยนสู่ "พรรคประชาชน" สังกัดใหม่สีส้ม!