สถานการร์สู้รบในภูมิภาคเคิร์สก์ ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย ใกล้ชายแดนยูเครน ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 8 ส.ค. กองทัพยูเครนได้เปิดเผยภาพการยอมจำนนของทหารรัสเซียเกือบ 40 นายระหว่างปฏิบัติการจู่โจมข้ามพรมแดน
หน่วยควบคุมอากาศยานไร้คนขับของกองทัพยูเครนระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ส.ค. โดยทหารรัสเซียจำนวนอย่างน้อย 36 นาย ได้ออกมามอบตัวกับกำลังยูเครนที่โจมตีจุดตรวจชายแดนในภูมิภาคเคิร์สก์ ทางภาคใต้ของรัสเซีย
ในคลิปวิดีโอนี้ยังแสดงภาพการส่งโดรนโจมตีอาคารหลายแห่งบริเวณจุดตรวจชายแดน ห่างจากเมืองซุดชา (Sudzha) ในภูมิภาคเคิร์สก์ ประมาณ 10 กิโลเมตร ก่อนที่ทหารรัสเซียจะยกธงขาวยอมจำนน
สถานการณ์การสู้รบในภาพรวมที่เมืองซุดชายังคงดำเนินต่อไปเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน แต่บล็อกเกอร์สายทหารรายหนึ่งของรัสเซียเชื่อว่า ยูเครนสามารถควบคุมพื้นที่แห่งนี้ได้แล้ว และพยายามเคลื่อนกำลังต่อไปทางทิศเหนือ มุ่งหน้าสู่เมือง "ลกอฟ" (Lgov)
ด้าน อเล็กเซ สเมอร์นอฟ รักษาการผู้ว่าการภูมิภาคเคิร์สก์ ได้รายงานสถานการณ์ต่อประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน โดยได้แจ้งแผนการส่งหน่วยสงครามอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์หุ้มเกราะ เพื่อรักษาความปลอดภัยสถานีก๊าซในพื้นที่
ขณะเดียวกัน หน่วยข่าวกรองกระทรวงกลาโหมยูเครนได้เผยแพร่คลิปวิดีโอปฏิบัติการทางทหารในภูมิภาคเคอร์ซอน ซึ่งยังอยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย โดยเป็นการจู่โจมในแนวสันทราย "เทนดรา สปิต" (Tendra Spit) ทางตอนบนของทะเลดำ
ภารกิจนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ส.ค. เช่นกัน ซึ่งกระทรวงกลาโหมยูเครนยืนยันว่าสามารถสร้างความสูญเสียให้กับกำลังพลรัสเซีย รวมทั้งทำลายยุทโธปกรณ์และแนวป้องกันได้บางส่วน
ด้าน ซาบรีนา ซิงห์ รองโฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯยืนยันว่าการการส่งทหารรุกเข้าสู่ภูมิภาคเคิร์สก์ในรัสเซียยังไม่ขัดกับนโยบายของสหรัฐฯ โดยให้เหตุผลว่าความเคลื่อนไหวของกองกำลังยูเครนมีจุดประสงค์เพื่อสกัดการโจมตีจากพื้นที่ที่ยังอยู่ภายในรัสเซีย ซึ่งสหรัฐฯ อนุญาตให้ใช้อาวุธที่ได้รับบริจาคโจมตีเป้าหมายได้
เปิดข้อมูล "พรรคถิ่นกาขาว" ก่อนเปลี่ยนสู่ "พรรคประชาชน" สังกัดใหม่สีส้ม!