สำนักข่าว CNN รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่กองทัพยูเครนที่เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา เครื่องบินขับไล่ F-16 ซึ่งผลิตในสหรัฐฯ ได้ตกระหว่างปฏิบัติหน้าที่ปกป้องน่านฟ้าจากการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ของรัสเซีย
เหตุการณ์นี้ส่งผลให้นักบิน โอเล็กซีย์ เมส ซึ่งมีโค้ดเนมว่า "มูนฟิช" (Moonfish) เสียชีวิต โดยได้ทำพิธิฝังศพเมื่อวันที่ 29 ส.ค.
ส่วนสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตกยังอยู่ในระหว่างการสืบสวน และได้มีการเชิญผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศร่วมค้นหาข้อเท็จจริง แต่กองทัพยูเครนไม่เชื่อว่านักบินทำงานผิดพลาด
ปภ.รายงานน้ำท่วม 5 จว. ภาคเหนือ-ภาคกลางตอนบนยังอ่วม!
“เงินสงเคราะห์บุตร 2567” เช็กเลยแต่ละเดือนโอนเข้าบัญชีวันไหนบ้าง
นักวิทย์ถ่ายภาพความละเอียดสูงพื้นผิว “ดาวเหนือ” ได้เป็นครั้งแรก
ด้านคณะเสนาธิการสูงสุดกองทัพยูเครนเปิดเผยว่า เครื่องบิน F-16 หลายลำได้ถูกมอบหมายภารกิจสกัดการโจมตีจากรัสเซียที่เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ โดยเป็นปฏิบัติการที่เกิดขึ้นควบคู่ไปกับการใช้ขีปนาวุธเพื่อคุ้มครองน่านฟ้า
แต่ในระหว่างการเคลื่่อนที่ประชิดเป้าหมายถัดไป มีเครื่องบิน F-16 ลำหนึ่งได้สูญเสียการติดต่อ ก่อนจะพบว่าเครื่องบินลำดังกล่าวได้ตกกระแทกพื้นและนักบินเสียชีวิต
โดยเมื่อวันที่ 27 ส.ค. ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เปิดเผยว่า กองทัพอากาศได้ใช้เครื่องบิน F-16 ทำลายขีปนาวุธและโดรนของรัสเซีย ซึ่งนับเป็นการยืนยันอย่างเป็นทางการครั้งแรกว่ายูเครนได้นำเครื่องบินเหล่านี้ไปใช้ในภารกิจการสู้รบแล้ว
สำหรับเหตุที่เกิดขึ้นนับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของยูเครน ที่เพิ่งได้รับมอบเครื่องบิน F-16 ล็อตแรกจากชาติพันธมิตรตะวันตกเพียงไม่ถึง 1 เดือน ขณะที่เมสหรือมูนฟิช นักบินที่เสียชีวิตเป็นบุคลากรของกองทัพยูเครนเพียงไม่กี่คนที่ได้รับการฝึกฝนการใช้เครื่องบินรบรุ่นนี้
โดยกระบวนการฝึกฝนนักบินยูเครนเพื่อใช้งานเครื่องบิน F-16 ได้เริ่มต้นขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา ซึ่งโดยปกติระยะเวลาการฝึกอบรมต้องใช้เวลานานนับปี แต่นักบินยูเครนที่เข้ารับการฝึกอบรมมีเวลาจำกัดเพียง 6 เดือน
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการใช้เครื่องบิน F-16ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่จะพลิกโฉมสถานการณ์สู้รบในยูเครนได้ทั้งหมด เนื่องจากเครื่องบินรบเหล่านี้ยังมีศักยภาพเป็นรองเครื่องบินรบรัสเซียรุ่นใหม่ ๆ