เมื่อวันที่ 9 ก.ย. กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกแถลงการณ์เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ยูเครนเริ่มต้นปฏิบัติการจู่โจมข้ามพรมแดนภูมิภาคเคิร์สก์ตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค. กองทัพรัสเซียได้ทำลายยุทโธปกรณ์ของฝ่ายยูเครนมากกว่า 1,000 รายการ ทั้งรถถัง 89 คัน ยานกราะลำเลียงพล 75 คัน ยานเกราะต่อสู้ 635 คัน และระบบยิงขีปนาวุธไฮมาร์สอีก 7 ชุด
ในด้านกำลังพล กระทวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่า กองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปไม่น้อยกว่า 11,400 นาย จากปฏิบัติการบุกภูมิภาคเคิร์สก์
นอกจากนี้กองทัพรัสเซียยังป้องกันการโจมตีจากกองกำลังยูเครนที่พยายามเดินหน้ายึดพื้นที่เพิ่มเติมในภูมิภาคดังกล่าว โดยตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมากองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปอีก 240 นาย และยุทโธปกรณ์อีก 13 รายการ
ขณะที่ในวันเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศยูเครนได้เรียก ชาร์เรีย อมูเซการ์ อุปทูตอิหร่านเข้าพบเพื่อยื่นประท้วงต่อการส่งขีปนาวุธให้รัสเซีย โดยได้เตือนว่าหากเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงจะสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงและไม่สามารถแก้ไขได้ต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
ด้านทีมโฆษกสหภาพยุโรปเปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลที่น่าเชื่อถือจากพันธมิตรเกี่ยวกับการส่งอาวุธอิหร่านให้รัสเซีย ซึ่งเท่ากับเป็นการสนับสนุนสนับสนุนการรุกรานยูเครนและยกระดับสงคราม โดยผู้นำชาติสมาชิกพร้อมจะใช้มาตรการลงโทษอิหร่านอย่างเข้มข้น
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของกองทัพอิหร่านตอบโต้ว่าการกล่าวอ้างเช่นนี้เป็นเพียงการทำสงครามจิตวิทยา พร้อมย้ำว่า อิหร่านไม่สนับสนุนฝ่ายใดในสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน
อุตุฯ เตือนช่วง 13-19 ก.ย. นี้ เฝ้าระวัง “ฝนตกหนัก”
เช็กสถิติ 10 นัดหลัง บอลไทย พบ เวียดนาม ก่อนศึก LP BANK CUP 2024