อดีตประธานาธิบดีเปรู “อัลแบร์โต ฟูจิโมริ” ถึงแก่อสัญกรรมแล้วในวัย 86 ปีจากโรคมะเร็ง
เมื่อคืนวันที่ 11 ก.ย. เคย์โกะ ฟูจิโมริ แจ้งข่าวว่า “หลังจากต่อสู้กับโรคมะเร็งมาอย่างยาวนาน ในที่สุด อัลแบร์โต ฟูจิโมริ คุณพ่อของเราก็จากไปเพื่อไปพบพระผู้เป็นเจ้า เราขอให้ผู้ที่รักคุณพ่อร่วมอธิษฐานเพื่อให้วิญญาณของเขาได้พักผ่อนชั่วนิรันดร์”
ก่อนหน้านี้ในเดือน พ.ค. ฟูจิโมริเคยเปิดเผยว่า เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเนื้องอกร้ายชนิดใหม่
โฮเซ คาร์ลอส กูเตียเรซ แพทย์ประจำตัวฟูจิโมริกล่าวว่า อดีตประธานาธิบดีได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลิ้นเมื่อต้นปีนี้และเสียชีวิต “จากภาวะแทรกซ้อนจากโรคนี้”
เปิดภาพดาวเทียม น้ำท่วมเชียงราย-เชียงใหม่ 86,438 ไร่
ไต้หวันระงับใช้งานเครื่องบินมิราจ 2000 หลังตกทะเล
สรุปบรรยากาศ นายกฯ แพทองธาร แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา วันแรก
กูเตียเรซกล่าวเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ว่า “จากผลข้างเคียงของกระบวนการรักษา ฟูจิโมริมีปัญหาด้านการหายใจเมื่อ 2 วันก่อน เขาเริ่มหายใจไม่ออก เราก็ให้ออกซิเจนเขา อาการหายใจไม่ออกก็ยิ่งแย่ลง เขาเริ่มบวม ในที่สุด เมื่อคืนเขาก็หมดสติ และในที่สุด วันนี้ ฟูจิโมริเสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)”
ทั้งนี้ ฟูจิโมริเป็นบุตรของผู้อพยพชาวญี่ปุ่น เคยปกครองเปรูระหว่างปี 1990-2000 โดยเป็นผู้นำที่มีทั้งคนชื่นชอบและชิงชัง เพราะทำให้ประเทศฟื้นตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจได้ และปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายที่ทำให้ประเทศไม่มั่นคง แต่ขณะเดียวกันเขาก็เป็นผู้นำเผด็จการที่ใช้กองกำลังรักษาความปลอดภัยปราบปรามฝ่ายตรงข้าม
สำหรับผู้สนับสนุนของฟูจิโมริ เขาคือคนที่ช่วยเปรูจากกลุ่มกบฏที่โหดร้ายอย่าง Sendero Luminoso และเป็นคนที่ทำให้เศรษฐกิจกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้งหลังจากเงินเฟ้อพุ่งสูง แต่สำหรับเหยื่อผู้บริสุทธิ์หลายพันคนของความขัดแย้ง ฟูจิโมริเป็นเผด็จการและเป็นผู้นำที่โหดร้าย
เขาปกครองด้วยความเข้มงวด เขาได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีครั้งแรกในปี 1990 เมื่อกลุ่มกบฏกำลังแผลงฤทธิ์ถึงจุดสูงสุด
2 ปีต่อมา ฟูจิโมริปิดรัฐสภา โดยกล่าวหาสมาชิกรัฐสภาว่าขัดขวางไม่ให้เขาใช้มาตรการที่ประเทศกำลังต้องการ รัฐบาลของเขาสามารถเอาชนะกลุ่มกบฏได้สำเร็จ แต่ต้องแลกมาด้วยการสูญเสียชีวิตที่สูงมาก การปราบปรามของเขาส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 69,000 ราย
ท้ายที่สุดฟูจิโมริถูกบีบให้ออกจากตำแหน่งจากข้อกล่าวหาเรื่องคอร์รัปชัน และต่อมาถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานทุจริต การใช้อำนาจในทางมิชอบ และละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง จากการอยู่เบื้องหลังการสังหารหมู่ในช่วงต้นทศวรรษ 1990
เขาหลบหนีออกจากประเทศแต่ถูกจับกุมและส่งผู้ร้ายข้ามแดนในเวลาต่อมา ก่อนที่จะถูกตัดสินว่ามีความผิดและต้องโทษจำคุก
เมื่อเดือน ธ.ค. 2023 ฟูจิโมริเพิ่งได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำบาร์บาดิโยในเมืองลิมา หลังจากต้องรับโทษจำคุกมานานกว่า 15 ปี
ปัจจุบัน เคย์โกะ ลูกสาวของเขา เป็นผู้นำพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเปรู เธอแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งล่าสุดด้วยคะแนนที่ห่างกันเพียงเล็กน้อย และได้ประกาศไปแล้วว่าเธอจะลงสมัครอีกครั้งในปี 2026
เรียบเรียงจาก BBC