เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอังกฤษรายงานพบผู้ติดเชื้อติดเชื้อฝีดาษวานร (Mpox) สายพันธุ์ใหม่เป็นกรณีแรกของประเทศ โดยเป็นสายพันธุ์เคลดวันบี (Clade Ib) ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อสูงในแอฟริกา
สำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพของสหราชอาณาจักร (UKHSA) ระบุว่า บุคคลดังกล่าวตรวจพบเชื้อฝีดาษวานรเคลดวันบีหลังจากเดินทางไปยังประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการระบาด และถูกส่งตัวไปยังหน่วยโรคติดเชื้อร้ายแรงที่โรงพยาบาล Royal Free ในลอนดอนแล้ว
บุคคลดังกล่าวมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่หลังจากเดินทางกลับอังกฤษด้วยเที่ยวบินเมื่อวันที่ 21 ต.ค. ต่อมามีผื่นขึ้นและได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัสหลังจากเข้ารับการรักษาในห้องฉุกเฉินในลอนดอนเมื่อวันที่ 27 ต.ค.
113 แคปชัน "เทศกาลฮาโลวีน 2024" ประโยคเด็ด ไม่น่ากลัว แต่น่ากอด
เช็กที่นี่! ปรับอัตราเงินเดือนผู้อำนวยการ ครู บุคลากรการศึกษา โรงเรียนเอกชน
ผลประกบคู่คาราบาว คัพ รอบ 8 ทีม แมนยู ชน สเปอร์ส ลิเวอร์พูล ไม่หนัก
ขณะนี้ UKHSA กำลังติดตามผู้ติดต่อใกล้ชิดของบุคคลดังกล่าว ซึ่งจะได้รับการทดสอบฝีดาษวานร การฉีดวัคซีน และคำแนะนำด้านการดูแลสุขภาพหากพบว่าบุคคลดังกล่าวติดเชื้อไวรัสดังกล่าว
ศ.ซูซาน ฮอปกินส์ ที่ปรึกษาทางการแพทย์ของ UKHSA กล่าวว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่เราตรวจพบเชื้อฝีดาษวานรสายพันธุ์นี้ในอังกฤษ แม้ว่าจะมีการยืนยันกรณีอื่น ๆ ในต่างประเทศแล้วก็ตาม”
เธอเสริมว่า “ความเสี่ยงต่อประชากรของอังกฤษยังคงต่ำ และเรากำลังดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดและลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดที่อาจเกิดขึ้น ขณะนี้กำลังดำเนินการสอบสวนเพื่อหาว่าบุคคลดังกล่าวติดเชื้อได้อย่างไร และเพื่อประเมินว่ามีกรณีที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมหรือไม่”
ปัจจุบันมีหลักฐานบ่งชี้ว่า เชื้อฝีดาษวานรเคลดวันบีทำให้เกิดอาการป่วยร้ายแรงกว่าสายพันธุ์เคลดทู (Clade II) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดทั่วโลกในปี 2022
เมื่อเดือนที่แล้ว อังกฤษเพิ่งสั่งซื้อวัคซีนฝีดาษวานรมากกว่า 150,000 โดสเพื่อเพิ่มความพร้อมหลังจากที่องค์การอนามัยโลกประกาศว่าการระบาดในแอฟริกาเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพระดับโลก
เคลดวันบีเกิดขึ้นในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกและแพร่กระจายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เชื้อจะแพร่ผ่านการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ สัตว์ที่ติดเชื้อ หรือวัสดุที่ปนเปื้อน อาการทั่วไป ได้แก่ ผื่นผิวหนังหรือรอยโรคที่มีหนอง ซึ่งจะคงอยู่ได้นานถึง 1 เดือน และอาจทำให้เกิดไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง ไม่มีแรง และต่อมน้ำเหลืองบวม โดยทั่วไปโรคนี้จะไม่รุนแรง แต่ในบางรายอาจถึงแก่ชีวิตได้
เรียบเรียงจาก The Guardian