“โดนัลด์ ทรัมป์” เตรียมกลับเข้าทำเนียบขาวในฐานะประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ หลังผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการออกมาแล้วว่าเขาได้คะแนน Electoral Vote เกินกึ่งหนึ่ง
สิ่งที่หลายฝ่ายจับตาคือนโยบายที่ทรัมป์เคยประกาศไว้ในตอนหาเสียงว่าจะลงมือทำโดยทันทีที่ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ (ซึ่งตอนนี้ทรัมป์ยังเป็นเพียง “ว่าที่” อยู่) แม้แต่ในสุนทรพจน์ประกาศชัยชนะของเขา ทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะ “บริหารประเทศโดยมีคติประจำใจง่าย ๆ ว่า ต้องรักษาสัญญา เราจะรักษาสัญญาของเรา”
มาดูกันว่า มีเรื่องอะไรบ้าง ที่ทรัมป์เคยบอกว่า “จะทำทันที”
ส่งผู้อพยพไร้เอกสารกลับประเทศ
ระหว่างการหาเสียง ทรัมป์สัญญาว่า จะส่งตัวผู้อพยพไร้เอกสารทั้งหมดกลับประเทศต้นทาง โดยจะเป็นการเนรเทศผู้อพยพครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ
เขายังให้คำมั่นว่าจะสร้างกำแพงกั้นชายแดนกับเม็กซิโกให้เสร็จ ซึ่งก่อนหน้านี้เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อครั้งที่เขาเป็นประธานาธิบดีสมัยแรก แต่หยุดไปในช่วงรัฐบาลไบเดน
จำนวนผู้อพยพที่ชายแดนตอนใต้ของสหรัฐฯ พุ่งแตะระดับสูงสุดเมื่อปลายปี 2023 ในสมัยรัฐบาลของไบเดน-แฮร์ริส ก่อนที่จะลดลงในปี 2024
คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” ถึงกองปราบ หลังโดนหมายจับ “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน”
วิเคราะห์บอล ! ยูโรป้าลีก แมนยู พบ พีเอโอเค 7 พ.ย.67
ความเคลื่อนไหวด้านเศรษฐกิจ ภาษี และค่าธรรมเนียมศุลกากร
ข้อมูลการสำรวจผู้มีสิทธิเลือกตั้งชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจเป็นประเด็นสำคัญสำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะ “ยุติภาวะเงินเฟ้อ” ซึ่งพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงภายใต้การบริหารของ โจ ไบเดน ก่อนที่จะลดลงมาอีกครั้ง
เขายังสัญญาว่าจะลดหย่อนภาษีครั้งใหญ่ โดยขยายเวลาการปฏิรูปประเทศจากปี 2017 เขายังเสนอให้ทิปไม่ต้องเสียภาษี ยกเลิกภาษีเงินประกันสังคม และลดหย่อนภาษีนิติบุคคล
เขายังเสนอภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศอย่างน้อย 10% เพื่อลดการขาดดุลการค้า ส่วนการนำเข้าจากจีนอาจต้องเสียภาษีเพิ่มอีก 60% แต่นักเศรษฐศาสตร์บางคนเตือนว่าการดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้ราคาสินค้าสำหรับประชาชนทั่วไปสูงขึ้น
ลดกฎระเบียบด้านสภาพอากาศ
ในช่วงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก ทรัมป์ได้ยกเลิกกฎหมายการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมหลายร้อยฉบับ และทำให้สหรัฐฯ เป็นประเทศแรกที่ถอนตัวจากข้อตกลงปารีสว่าด้วยสภาพอากาศ
ครั้งนี้ เขาให้คำมั่นอีกครั้งว่าจะลดกฎระเบียบด้านสภาพอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์ของอเมริกา เขาโจมตีรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยสัญญาว่าจะยกเลิกแผนรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของไบเดน
เขาให้คำมั่นว่าจะเพิ่มการผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลของสหรัฐฯ ด้วย และต้องการเปิดพื้นที่ขุดเจาะน้ำมันในอาร์กติก ซึ่งเขาบอกว่าจะช่วยลดต้นทุนพลังงานได้
ยุติสงครามยูเครน
ทรัมป์วิพากษ์วิจารณ์การใช้งบประมาณหลายหมื่นล้านดอลลาร์ที่สหรัฐฯ ใช้เพื่อสนับสนุนยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซีย และให้คำมั่นว่าจะยุติความขัดแย้ง “ภายใน 24 ชั่วโมง” หลังรับตำแหน่ง ผ่านข้อตกลงและการเจรจา โดยไม่ได้พูดว่าเขาคิดว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งควรยอมสละอะไร
ทรัมป์ยังต้องการให้สหรัฐฯ ถอนตัวจากความขัดแย้งในต่างประเทศ รวมถึงสงครามในฉนวนกาซาด้วย ทรัมป์วางตำแหน่งตัวเองเป็นผู้สนับสนุนอิสราเอลอย่างเหนียวแน่น แต่ได้เรียกร้องให้พันธมิตรของสหรัฐฯ ยุติปฏิบัติการ
นอกจากนี้ เขายังให้คำมั่นว่าจะยุติความรุนแรงที่เกี่ยวข้องในเลบานอน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะทำอย่างไร
ไม่มีการห้ามทำแท้ง
ทรัมป์กล่าวระหว่างการดีเบตกับ กมลา แฮร์ริส ว่าจะไม่ลงนามในกฎหมายห้ามทำแท้งระดับประเทศ แม้ว่าผู้สนับสนุนบางคนจะประสงค์ก็ตาม
ในปี 2022 สิทธิในการทำแท้งตามรัฐธรรมนูญของประเทศถูกยกเลิกโดยศาลฎีกา ซึ่งผู้พิพากษาส่วนใหญ่เป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่ทรัมป์แต่งตั้งขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก
ตัวทรัมป์เองมักจะกล่าวว่ารัฐต่าง ๆ ควรมีอิสระในการตัดสินใจเกี่ยวกับกฎหมายของตนเองเกี่ยวกับการทำแท้ง
อภัยโทษผู้ก่อจลาจล 6 มกราคม
ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะปล่อยตัวผู้ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในการก่อจลาจลบุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2021 เพื่อพยายามขัดขวางการรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งปี 2020 ของ โจ ไบเดน
มีผู้เสียชีวิตหลายรายจากความรุนแรงที่ทรัมป์ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้จุดชนวน แต่เขาพยายามลดภาพความรุนแรงของการจลาจลลง และบอกว่าหลายคน “ถูกคุมขังอย่างไม่เป็นธรรม” แม้จะยอมรับว่า “บางคนอาจจะควบคุมตัวเองไม่ได้”
ปลดอัยการพิเศษ แจ็ก สมิธ
ทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะปลดอัยการมากประสบการณ์รายนี้ “ภายใน 2 วินาที” หลังจากเข้ารับตำแหน่ง
โดยอัยการพิเศษ แจ็ก สมิธ ได้ตั้งข้อกล่าวหาทางอาญาต่อทรัมป์ในข้อกล่าวหาว่าพยายามพลิกผลการเลือกตั้งปี 2020 และข้อกล่าวหาว่าจัดการเอกสารลับอย่างไม่เหมาะสม
ทรัมป์ปฏิเสธข้อกล่าวหาใด ๆ และหาทางจัดการไม่ให้ทั้งสองคดีเข้าสู่กระบวนการการพิจารณาก่อนการเลือกตั้งได้สำเร็จ เขากล่าวว่า สมิธทำให้เขาตกอยู่ภายใต้ “การล่าแม่มดทางการเมือง”
ทรัมป์จะกลับเข้าสู่ทำเนียบขาวในฐานะประธานาธิบดีคนแรกที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญา โดยเขาถูกตัดสินว่ามีความผิดในนิวยอร์กฐานปลอมแปลงเอกสารทางธุรกิจ
เรียบเรียงจาก BBC