แม้ผลจะยังไม่เป็นทางการ แต่ก็ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่า อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน จะหวนคืนสู่ทำเนียบขาว ได้กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 เราย้อนเส้นทางชีวิตและผลงานการเมืองที่ผ่านมาของทรัมป์กัน
โดนัลด์ ทรัมป์ เกิดที่นครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก ของสหรัฐอเมริกา เมื่อ 14 มิถุนายนปี 1946 ปัจจุบัน ทรัมป์มีอายุ 78 ปี และเคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ
ทรัมป์เกิดในครอบครัวเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ และเป็นบุตรคนที่ 4 จากทั้งหมด 5 คน มารดาเป็นผู้อพยพชาวสก็อตที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในสหรัฐฯ โดยทรัมป์ได้รับอิทธิพลมาจากผู้เป็นพ่อ ทั้งนิสัยที่ชอบเป็นผู้นำ รวมถึงเป้าหมายในการเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้วย
ทรัมป์จบการศึกษาที่โรงเรียนธุรกิจวอร์ตันแห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย จากนั้นจึงเข้าร่วมทำงานในบริษัทของพ่อ ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น "ทรัมป์ ออร์แกไนเซชั่น"
5 แหล่งวิตามินปราการผิว ช่วยบำรุงลดรอยด่างดำ เหี่ยวย่นช่วยชะลอวัย
เส้นทางธุรกิจ
ก่อนลงสู่สนามการเมือง ทรัมป์ถือว่าเป็นนักธุรกิจที่มีอิทธิพลคนหนึ่งของอเมริกา เป็นผู้ก่อตั้งทรัมป์เอนเตอร์เทนเมนต์รีสอร์ต ที่มีกิจการกาสิโนและโรงแรมหลายแห่งทั่วโลก แม้จะเคยประสบปัญหาล้มละลายและปัญหาทางการเงิน แต่เขายังคงมุ่งมั่นบนเส้นทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยหลายแห่งบนทำเลทองของอเมริกา เช่น ทรัมป์เพลซ กลุ่มอาคารหลายหลังริมแม่น้ำฮัดสัน มีพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ในแมนแฮตตันหลายล้านตารางฟุต รวมถึงในย่านควีนส์ เกาะสแตเทน และบรูกลิน แต่อสังหาริมทรัพย์อันโด่งดังคือ Trump Tower ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางแมนฮัตตัน ใกล้สวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์ก
ในแวดวงการบันเทิง ชื่อเสียงของทรัมป์เป็นที่รู้จักจากรายการเรียลลิตี้โชว์ทางช่องเอ็นบีซี ชื่อ ดิ แอพเพรนทิซ (The Apprentice) ซึ่งเขารับตำแหน่งพิธีกรและผู้อำนวยการสร้าง นอกจากนั้น เวลานั้นทรัมป์ยังเป็นเจ้าของธุรกิจจัดการประกวดนางงามจักรวาลอีกด้วย ในปี 2015 ฟอร์บส์ได้ประมาณการว่ามูลค่าทรัพย์สินของทรัมป์น่าจะอยู่ที่ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ติดอันดับ 405 ของมหาเศรษฐีระดับโลก
ด้านชีวิตสมรส ทรัมป์แต่งงานมา 3 ครั้ง หย่า 2 ครั้ง และมีบุตร 5 คน โดยการแต่งงานครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2005 กับนางแบบสัญชาติสโลวีเนีย นางเมลาเนีย ทรัมป์ (Melania Knauss) และมีลูกชายด้วยกัน 1 คน
เส้นทางการเมือง
สำหรับเส้นทางการเมือง ทรัมป์ เอาชนะ นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ปี 2016 ซึ่งขณะนั้น เขามีอายุ 70 ปี ถือเป็นบุคคลอายุมากที่สุดและมีทรัพย์สินมากที่สุดที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และถือเป็นผู้นำสหรัฐฯ คนแรกที่ไม่เคยรับราชการทหารหรือข้าราชการมาก่อน
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเป็นบุคคลที่ 5 ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ที่ได้รับเลือกตั้งโดยไม่ได้ชนะคะแนนป๊อปปูลาร์โหวต หรือคะแนนเสียงข้างมากจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ
แม้ทรัมป์จะไม่เคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ มาก่อน แต่เขามักตกเป็นที่สนใจของสื่อมวลชน ด้วยบุคลิกเสียงดัง พูดจาโผงผาง และเป็นผู้ที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมแบบสุดโต่งระหว่างดำรงตำแหน่ง ทรัมป์แต่งตั้งผู้พิพากษาศาลสูง 3 คนที่มีส่วนในการคว่ำสิทธิการทำแท้งและรัฐบาลของเขาเจอบททดสอบใหญ่จากการระบาดของโควิด-19
วาระแรกในตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ จบลงด้วยความวุ่นวายและเสียงประณามจากทั้งประเทศ ไม่เว้นแม้แต่คนในพรรครีพับลิกันด้วยกันเอง หลังการท้าทายผลการเลือกตั้งในปี 2020 ของเขา นำไปสู่เหตุจลาจลอาคารรัฐสภา
ในปีนี้ ทรัมป์ กลับมาอีกครั้ง และลอยลำเข้ามาเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน เพื่อลงสนามชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกสมัย ความท้าทายที่้สำคัญสำหรับทรัมป์ในศึกการเลือกตั้งครั้งนี้ คือ พฤติกรรมส่วนตัวของเขาจากการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก
มรสุมคดีความ
ทรัมป์ กลายเป็นอดีตผู้นำสหรัฐฯ คนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกันที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีอาญา แม้ว่าเขาจะยังคงเป็นอิสระระหว่างรอการพิจารณาคดี และมีโอกาสหลีกเลี่ยงโทษจำคุกได้ทั้งหมด
ความผิดที่ว่านี้มาจากคณะลูกขุนที่ตัดสินให้อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีความผิด 34 กระทง ในคดีที่เขาถูกกล่าวหาว่าปลอมแปลงข้อมูลทางการเงิน เพื่อปกปิดค่าใช้จ่าย 130,000 ดอลลาร์ ซึ่งจ่ายเพื่อเป็นค่าปิดปาก สตอร์มี แดเนียลส์ หรือชื่อจริงคือ สเตฟานี คลิฟฟอร์ดวัย 44 ปี ดาราหนังผู้ใหญ่ เพื่อให้เก็บงำเรื่องสัมพันธ์ลับๆ ของทั้งคู่ ก่อนศึกเลือกตั้งเมื่อปี 2016
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังมีมรสุมคดีความจากการถูกฟ้องข้อหาอื่นๆ อีกหลายข้อหาจากรัฐบาลกลาง และในระดับรัฐ โดยคดีอาญาที่เป็นคดีใหญ่อีก 3 คดี ได้แก่ คดีแทรกแซงผลการเลือกตั้งที่รัฐจอร์เจีย คดีเก็บเอกสารลับโดยมิชอบ และคดีที่เขายุยงให้กลุ่มผู้สนับสนุนบุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ
อุปสรรคทางการเมือง
ส่วนระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีนี้ ทรัมป์เผชิญกับความท้าทายจากความพยายามลอบสังหารหลายต่อหลายครั้ง ครั้งที่รุนแรงที่สุด คือ เหตุลอบยิงในงานปราศรัยหาเสียงของพรรครีพับลิกัน ที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ผู้สนับสนุนถูกลูกหลงเสียชีวิต 1 คน ส่วนทรัมป์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย โดยกระสุนเจาะทะลุใบหู
อีกหนึ่งอุปสรรคของทรัมป์ คือ เรื่องอายุและสุขภาพ ซึ่งอาจส่งผลต่อความพร้อมในการเป็นประธานาธิบดี เรื่องนี้่เคยเล่นงานอดีตคู่แข่งอย่าง ประธานาธิบดี โจ ไบเดน วัย 81 ปี จนทำให้เขาต้องประกาศถอนตัวจากศึกเลือกตั้งมาแล้ว เมื่อไบเดนถอนตัวออกไป ผู้ที่ขึ้นมารับไม้ต่ออย่างรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส จึงหยิบจุดอ่อนนี้ขึ้นมาโจมตีทรัมป์ เพื่อเรียกคะแนนจากชาวอเมริกันที่ต้องการผู้นำอายุน้อย และมีความสดใหม่
หวนคืนทำเนียบขาว
อย่างไรก็ตามชัยชนะในวันนี้ ทำให้ทรัมป์กลายเป็นคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ต่อจาก อดีตประธานาธิบดี โกรเวอร์ คลีฟแลนด์ ที่สามารถกลับเข้าทำเนียบขาวได้อีกครั้ง หลังจากแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีมาแล้วครั้งหนึ่ง พูดง่ายๆ คือ เป็นประธานาธิบดีที่ดำรงตำแหน่งใน 2 วาระที่ไม่ติดกัน
จากนี้ ต้องรอติดตามว่าทรัมป์จะขับเคลื่อนนโยบายที่รับปากไว้กับชาวอเมริกันได้มากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะเรื่องสกัดผู้อพยพ รวมถึงความตั้งใจที่จะปรับโครงสร้างระบบราชการครั้งใหญ่ ซึ่งจะทำให้พนักงานราชการถูกแทนที่ด้วยกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ นี่ยังไม่รวมถึงอำนาจบริหารของประธานาธิบดี เพื่อใช้ในการออกคำสั่งพิเศษ
ซึ่งแฮร์ริสเคยเตือนไว้แล้วว่า ทรัมป์จะได้ครองอำนาจที่ปราศจากการตรวจสอบ