ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณชายฝั่งแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ บันทึกภาพระบบพายุขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลา 40 ชม.
นักพยากรณ์อากาศเรียกพายุชนิดนี้ว่า “บอมบ์ ไซโคลน” หรือ ไซโคลนระเบิด ซึ่งมีสาเหตุจากการที่ความกดอากาศลดฮวบลงอย่างรวดเร็วบริเวณนอกชายฝั่ง ส่งผลให้เกิดสภาพอากาศแปรปรวนรุนแรงอย่างฉับพลัน อิทธิพลของพายุลูกนี้ อาจทำให้เกิดหิมะ ฝนตกหนัก คลื่นลมแรง ไปพร้อมๆกัน
เบื้องต้น ปรากฏการณ์ดังกล่าวเริ่มส่งผลกระทบกับรัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ แล้ว โดยทำให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง กระทบชาวอเมริกันหลายแสนครัวเรือน แบ่งเป็น 6 แสนคนในรัฐวอชิงตัน และอีก 15,000 คนในรัฐแคลิฟอร์เนีย ขณะที่กระแสลมแรงก็ทำให้ต้นไม้หักโค่น และคาดว่าสถานการณ์จะย่ำแย่ลงตลอดทั้งสัปดาห์นี้
มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 คน อาศัยอยู่ใกล้กับเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน หลังต้นไม้ล้มใส่แคมป์คนไร้บ้าน
สำนักพยากรณ์อากาศออกแถลงการณ์เตือนว่ามีความเสี่ยงสูงที่พื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย จะมีฝนตกหนักมาก จึงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและดินโคลนถล่ม คาดว่าอ่าวซานฟรานซิสโกจะมีฝนตกได้สูงถึง 8 นิ้ว
อิทธิพลของบอมบ์ ไซโคลน ยังครอบคลุมไปถึงแคนาดา โดยทำให้เกิดลมกระโชกแรง วัดความเร็วลมนอกชายฝั่งเกาะแวนคูเวอร์ รัฐบริติชโคลัมเบีย ได้ 160 กม./ชม. ประชาชน 140,000 คนในรัฐไม่มีไฟฟ้าใช้
สรุปปม “ทนายพัช” ถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี จากคดี “แอม ไซยาไนด์”
วิเคราะห์พฤติกรรม "ทนายตั้ม" ส่อแววฮุบสมบัติเจ๊อ้อย?
วิธีกินแอปเปิลให้ได้ประโยชน์สูงสุด สารพฤกษเคมี ช่วยต้านอนุมูลอิสระด้วย