“ปูติน” ขู่ใช้ขีปนาวุธรุ่นใหม่ “โอเรชนิก” ถล่มเมืองหลวงยูเครน

ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน เปิดเผยว่า กำลังเลือกเป้าหมายในยูเครนสำหรับการโจมตีด้วยขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง "โอเรชนิก" ซึ่งจะมีทั้งโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร โรงงานผลิตอาวุธ และศูนย์กลางการตัดสินใจในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนด้วย

ปูตินยังระบุว่า การโจมตียูเครนระลอกใหญ่ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ด้วยขีปนาวุธกว่า 90 ลูกและโดรนอีก 100 ลำ เป็นการตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลจากชาติตะวันตก ทั้ง ATACMS ของสหรัฐฯ และสตอร์มชาโดว์ของสหราชอาณาจักร ในการโจมตีเข้ามาในรัสเซีย

Reuters/RUSSIAN POOL

การโจมตีของรัสเซียทำให้ทางการยูเครนต้องตัดไฟฉุกเฉินเนื่องจากเกิดไฟดับในหลายพื้นทั้งกรุงเคียฟ เมืองลุตสก์ ในภูมิภาคโวลิน ทางตะวันตก และภูมิภาคริฟเนซึ่งอยู่ติดกัน โดยมีประชาชนได้รับผลกระทบมากกว่า 1 ล้านครัวเรือน

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีปูตินประะกาศด้วยว่า รัสเซียจะไม่ยอมให้ยูเครนครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ โดยหากเป็นเช่นนั้น รัสเซียจะใช้อาวุธทุกรูปแบบที่มีอยู่โจมตียูเครน หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วสื่อของสหรัฐฯ รายงานว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลชาติตะวันตกคนหนึ่งออกมาแนะนำให้สหรัฐฯ มอบหัวรบนิวเคลียร์ให้ยูเครน ก่อนที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน จะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนมกราคมปีหน้า

น้ำท่วมปัตตานียังวิกฤติ เสียชีวิตแล้ว 3 ราย ล่าสุดเด็ก 1 ขวบตกน้ำดับสลด

ขณะที่ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ระบุว่า รัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธร่อนติดระเบิดลูกปรายหรือคลัสเตอร์บอมบ์ แต่กองทัพอากาศยูเครนสามารถสกัดเอาไว้ได้ 79 จาก 91 ลูก และโดรน 35 ลำ นอกจากนี้ ผู้นำยูเครนยังวิจารณ์การใช้ขีปนาวุธโอเรชนิกของรัสเซียว่าเป็นการยกระดับสงครามอย่างชัดเจนและขัดขวางความพยายามยุติการสู้รบ

ส่วนความเคลื่อนไหวของสหรัฐ เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเสนอชื่อ พลตรีคีธ เคลลอกก์ อดีตนายทหารกองทัพสหรัฐฯ ให้มาเป็นผู้ช่วยประธานาธิบดีและผู้แทนพิเศษประจำยูเครนและรัสเซีย

โดยระบุในแถลงการณ์ว่า การเสนอชื่อพลตรีเคลลอกก์จะช่วยในแผนงานสร้างสันติภาพด้วยการแสดงความแข็งแกร่ง และทำให้อเมริกาและทั่วโลกโลกปลอดภัยอีกครั้ง

สำหรับพลตรีเคลลอกก์เคยทำหน้าที่หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ในสภาความมั่นคงแห่งชาติของรัฐบาลทรัมป์ในสมัยแรก และยังเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติให้กับอดีตประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ด้วย

เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พลตรีเคลลอกก์เคยให้ความเห็นว่า สหรัฐฯ ควรเริ่มดำเนินนโยบายอย่างเป็นทางการ “เพื่อหาทางทำให้เกิดการหยุดยิงและมีการหาข้อยุติของความขัดแย้งยูเครนผ่านการเจรจา” โดยระบุด้วยว่า สหรัฐฯ จะเดินหน้าการสนับสนุนด้านอาวุธให้ยูเครนใช้ในการป้องกันการโจมตีจากรัสเซีย ในระหว่างหรือหลังมีการบรรลุข้อตกลงสันติภาพ ภายใต้เงื่อนไขว่า ยูเครนต้องเห็นด้วยที่จะร่วมโต๊ะเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย

เคลลอกก์ยังระบุว่า องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ควรเลื่อนการรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกไปอีกระยะเสลาหนึ่งเพื่อสร้างแรงจูงใจให้รัสเซียยอมเจรจา แต่จะไม่มีการเรียกร้องให้ยูเครนยกเลิกความพยายามทวงคืนดินแดนที่สูญเสียให้กับรัสเซียกลับคืนมา